ครับจากวันก่อนที่ในพระราชโทรเลขที่ทรงตรัสถึงเหรียญฉลองกู่เจ้าหลวงเชียงใหม่นนั้นผมขอเพิ่มเติมรายละเอียดของกู่ที่พระราชชายา ทรงอัญเชิญพระอัฐิและอัฐิพระญาติ มาบรรจุตามหนังสือกู่เจ้าหลวงเชียงใหม่ ดังนี้
๑.พระอัฐิของพระเจ้ากาวิละ พระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๑
๒.พระอัฐิของเจ้าหลวงธรรมลังกาช้างเผือกเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
องค์ที่ ๒
๓.พระอัฐิของเจ้าหลวงเสฎฐีคำฝั้น เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๓
๔.พระอัฐิของเจ้าหลวงพุทธวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๔
๕.พระอัฐิของพระเจ้ามโหตรประเทศ พระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
องค์ที่ ๕
๖.อัฐิพระเทวีแม่เจ้าคำแผ่น ชายาในพรเจ้ามโหตรประเทศ
๗.พระอัฐิพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ พระเจ้าผู้ครองเชียงใหม่องค์ที่ ๖
๘.อัฐิพระเทวีแม่เจ้าอุสาห์ ชายาในพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์
๙.พระอัฐิพระเจ้าอินทวิชยานนท์ พระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๗
๑๐.อัฐิพระเทวีแม่เจ้าเทพไกรสรหรือแม่เจ้าทิพเกสรชายาใน
พระเจ้าอินทวิชยานนท์
๑๑.อัฐิแม่เจ้าพิณทอง (ปินตอง)
ซึ่งต่อมาได้เพิ่มจำนวนขึ้นอีกมากถึง ๑๐๔ กู่ ในวันนี้ผมจะนำพระราชหัตถเลขา ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มานำเสนอต่อท่าน ดังนี้
ตอนที่ ๑ หน้าที่ ๔๙ หน้าที่ ๕๑
(สำเนาพระราชหัตถเลขา)
วันที่ ๑๑ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๘
ดารา
บัดนี้เป็นเวลาที่เหรียญแจกในงานฉลองกู่แล้วเสร็จตามกำหนด
ได้สั่งให้ทำหีบบรรจุ คงจะได้ส่งในวันสองวันนี้ เหตุที่ทำให้เขียน
หนังสือฉะบับนี้ล่วงหน้าเสียก่อน เพราะวันนี้เป็นวันหนังสือน้อยกว่า
ทุกวัน รอไปบางทีเวลาจะไม่เหมาะ
เมื่อแลดูรูปพระเจดีย์ดอยสุเทพ เห็นที่กะว่าจะติดดาว นึกน่า
เสียดายเต็มทีที่ไม่มีใครจะอ่านหนังสือได้ถึงแล้ว แต่นึกไปอีกทีหนึ่ง
ติด สูง ๆ เช่นนั้นก็ดี ติดต่ำอาจหายได้เพราะทำด้วยเงินจริง ๆ มันก็
มากอยู่
เหรียญนี้แลเห็นเป็นรอยตีพิมพ์ไม่สู้เรียบร้อยหน่อยหนึ่ง เพราะ
เหตุที่มันก็ตีพิมพ์จริง ๆ จะทำอย่างอื่นก็ไม่ทัน แต่ถ้าตัวอย่างเดิม
ได้ลดวงในให้เล็กลงไปเสียอีกหน่อยหนึ่ง รัสมีกว้างออกจะงามกว่า
แต่พึ่งนึกเดี่ยวนี้ การที่ไม่ได้ นึกแต่แรกไปมัวอี๋กรมหลวงนริศฯ
ว่าตาดีเขียนเล็ก ๆ ยังเป็น มัวพูดเปื้อยไปเสียทางนั้น ที่ตั้งวงใน
โตนั้นมาตามรอยของดาวติดพระเจดีย์ เร่งรัดมากด้วยกลัวจะไม่ทัน
แต่บัดนี้เห็นว่าน่าจะเกินทัน
หมู่นี้กำลังวุ่นเรื่องชายอุรุพงศ์ ฯ เจ็บ เรื่องจะเป็นไส้ตัน
เป็นหนองอย่างลูกโต วันแรกและวันที่สองตกใจมาก คะเนว่าจะ
ต้องถึงตัดถึงผ่า ถ้าไม่เห็นตัวอย่างผู้ที่รอดมาเป็นหลายคน คงจะ
ไม่เตรียมตัวที่จะยอม นี่ทำให้เตรียมตัวยอมได้ทันที มีข้อวิตกอยู่แต่
หัวใจอ่อน พอตั้งต้นเป็นขึ้นก็รวนจะหอบเสียแล้ว แก้ไขกันด้วย
เอาน้ำเย็นปะ ยาที่กินนั้นก็ไม่มีอะไรนอกจากถ่านที่ให้ไล่ลมกับยา
แก้ปวดก็เทือกเมา ๆ ไม่หลับได้เลย และกินอะไรไม่ได้เลยสองวัน
สองคืน จึงได้ กินยานอน คราวนี้หลับด้วยยานอนทอดหนึ่ง ต่อมา
ดูเหมือนพิษเสื่อมซาไปหมด ปล่อยให้นอนหลับได้จึงมีกำลังขึ้น
เขากำหนดว่าวันที่ ๔ คือวันนี้เป็นวันที่จะตั้งหนองฤาไม่หนอง และ
เป็นวันที่จะผ่านั้นพรุ่งนี้ มีความยินดีที่จะกล่าวว่าเห็นจะไม่ต้องผ่า
แน่แล้ว สังเกตดูพิษถอย วันแรกปรอดขึ้นถึง ๑๐๔ ขาเหยียดไม่ได้
ทั้งสองขานอนตะแคงก็ไม่ได้ ปวดจนเหงี่อแตก หายใจหอบเหนื่อย
เสมอ วันที่สองตั้งแต่บ่ายมาปรอด ๑๐๓ ออกจะเชื่อม แต่ขาพอ
เหยียดออกได้บ้าง ในจวนรุ่งวันที่ ๒ นี้ได้หลับ วันที่ ๓ ปรอดลดลง
อยู่ ๑๐๐ ถ้วน ๑๐๐ เศษ ๒ ค่อยคลายปวด รู้สึกหิว พอกินน้ำซุป
ได้เล็กน้อยขาเหยียดคล่องขึ้น แต่ท้องแข็งคงอยู่ วันนี้ ปรอด ๙๙
ยังค่ำ ไม่ใคร่รู้สึกปวด เป็นแต่รู้สึกเต็มอยู่ในท้อง นอนตะแคง
ข้างขวาพอลงได้ ข้างซ้ายไม่ได้เลย เห็นว่าอาการพิษถอยลงทุกวัน
แต่เพราะไส้ ที่บวมนั้นยังแข็งอยู่ หมอว่าที่จะกล่าวว่าพ้นอันตราย
ยังไม่ได้ ต่อ ๘ วันเป็นอย่างน้อยล่วงไปแล้วจึงจะไว้ใจได้ ที่หมอ
ว่าเป็นเช่นนี้ก็เป็นความจริง เมื่อลำไส้ยังแข็งอยู่เช่นนั้น ก็อาจจะกลัดเป็น
หนองได้ จึงต้องระวัง การที่ลูกเจ็บคราวนี้ได้ความเดือดร้อนเต็มที
เพราะยังเหลืออยู่ด้วยคนเดียวเท่านั้น นอกนั้นก็ต่างคนต่างแยกกันไป
แล้ว เวลากำลังไม่สบายนึกอะไรไม่ค่อยออก จนนึกกลัวว่าถ้า
เป็นอย่างไรจะเลยหลงเสียดอกกระมัง
จากพระราชหัตถเลขาฉบับนี้ทรงพระราชภาระในการจัดทำเหรียญฉลองกู่ด้วยพระองค์เอง และต่อมาทรงเล่าเรื่องอาการป่วยของพระราชโอรสและทรงแสดงถึงความรักและหว่งใย เป็นอันมาก ด้วยยังคงอยู่ใกล้ชิดพระองค์ ในตอนที่สองของพระราชหัตถเลขา จะนำเสนอในครั้งต่อไป ขอบคุณครับ.
ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)