ก่อนอื่นต้องขอสูมาท่านผู้อ่านทุกท่านที่ข้ามบ่ ได้ประติดประต่อเรื่องราว เลยวันเดือนยี่(วันเพ็ญเดือนสิบสอง)มาเสียสองวันก็เนื่องจากมีงานเข้ามาและเตรียมเครื่องสักการะพระเจ้าอินทวิชยานนท์ที่เอาไปบนดอยอินทนนท์อีก มาต่อวันนี้คงให้อภัยกันน่ะครับ มาต่อเลยน่ะครับ
หน้าที่ ๑๑ ถึง หน้าที่ ๑๒
เปนธรรมเนียมสืบมาจนแผ่นดินพระบาทสม
เด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริห์ว่าการพระราชพิธีทั้ง
ปวงควรจะให้เนื่องด้วยพระพุทธสาสนาทุก ๆ พระราชพิธี จึงโปรดให้
มีการสวดมนต์เย็นฉันเช้าก่อนเวลาที่จะยกเสาโคม พระสงฆ์ที่สวด
มาต์นั้นพระราชาคณะไทย ๑ พระครูปริตไทย ๔ พระราชาคณะ
รามัญ ๑ พระครูปริตรามัญ ๔ รวมเปน ๑๐ รูป เวลาทรงศีลแล้วก่อน
สวดมนต์ มีอาลักษณ์อ่านคำประกาศแสดงเรื่องพระราชพิธี แล
พระราชดำริห์ซึ่งทรงจัดเพิ่มเติม และพระราชทานแผ่พระราชกุศล
แก่เทพยดาทั้งปวง แล้วพระสงฆ์จึงได้สวดมนต์ต่อไป เวลา
เช้าพระฤกษ์ทรงรดน้ำสังข์แลเจิมเสาโคมไชยแล้วจึงได้ยก พระ
สงฆ์สวดชยันโตในเวลายกเสานั้นด้วย ครั้นพระสงฆ์ฉันแล้วถวาย
ไทยทานขวดน้ำมัน, ไส้ตะเกียง, โคม, ให้ต้องเรื่องกันกับพระราช
พิธี การสวดมนต์เลี้ยงพระยกโคมนี้ พระบาทสมเด็จพระจอม
เกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกไม่ใคร่จะขาด เสาโคมไชยประเทียบ
นั้นตั้งอยู่หน้าพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์แต่เดิมมา มีโคมไชยสามต้น
โคมประเทียบสามต้น เสาใช้ไม้แก่นยาว ๑๑ วา เสาโคมไชย
ที่ยอดเสามีฉัตรผ้าขาวโครงไม้ไผ่ ๙ ชั้น โคมประเทียบ ๘ ชั้น
เสาแลตะเกียงทาปูนขาวตลอด มีหงษ์ลูกพรวนติดชักขึ้นไปให้
มีเสียงดัง ตัวโคมโครงไม้ไผ่หุ้มผ้าขาว โคมบริวารเสาไม่ไผ่
๑๐๐ ต้น ฉัตรยอด ๓ ชั้นทำด้วยกระดาษ ปลายฉัตรเปนธง ตัว
โคมโครงไม้ไผ่ปิดกระดาษ โคมไชยโคมประเทียบเปนพนักงาน
สี่ตำรวจ โคมบริวารเปนพนักงานตำรวจนอกตำรวจสนม รอบ
พระราชวังมีโคมเสาไม้ไผ่ ตัวโคมข้างในสานเปนชลอม ปิด
กระดาษเปนรูปกระบอกตรง ๆ เปนของกรมล้อมพระราชวังทำปัก
ตามใบเสมากำแพงจำนวนโคม ๒๐๐ ......
จากในพระราชนิพนธ์นี้ทำให้เราทราบว่าการชักโคมในอดีตนั้นเป็นพิธีอย่างใหญ่ที่พระมหากษัตริย์ทรงโปรดเสด็จด้วยพระองค์เองและตัวโคมก็เป็นโคมที่ใช้ไม้ไผ่ทำเช่นปัจจุบันแต่รูปทรงโคมไชยนั้นไม่ทราบรูปทรงแน่นอนจะพยายามค้นหามานำเสนอให้ทราบต่อไป ส่วนโคมบริวารเป็นทรงกระบอกตามที่ทรงพระราชนิพนธ์อย่างชัดเจน ซึ่งยังมีรายระเอียดอีกมากผมจะนำมาเสนอในตอนต่อ ๆ ไป ครับ.
ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น