จากบทความตอนที่แล้วนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชหัตถเลขา ถึงพรราชชายา เจ้าดารารัศมี สองสาม เรื่องด้วยกันคือเรื่องดาวที่จะใช้ประดับพระบรมธาตุดอยสุเทพ ฯ และทรงสนพระทัยที่จะเสด้จมา ห้วยแก้ว และดอยสุเทพ และรื่องที่สามเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระอาการประชวรซึ่งเป็นเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ ถ้าหากพิจารณาจากอาการที่ทรงพระประชวรครั้งนี้ จะมีพระอาการคล้ายๆ การพระประชวรก่อนการสวรรคต ซึ่งวันเวลาจากพระราชหัตถเลขาแบบนี้ถึงวันสวรรคตประมาน ปีกับสามเดือนเศษ อาการพระประชวรก่อนการสวรรคต คือพระนาภีไม่สู่ดี ซึ่งพระองค์ตรัสกับข้าราชบริพานว่า ท้องไม่ค่อยสบาย ทางเสวยโอสถปัด(ยาถ่าย) ต่อมามีพระอาการ ยาถ่ายเดินมากไป พระนาภีเสีย เพลีย คือท้องเสียตามภาษาพื้นๆ และอ่อนเพลีย และต่อมามีพระบังคลเบาน้อย ประมาณ ๑ ช้อนโต๊ะ และวันต่อมา พระบังคลเบา น้อยลงไปอีก ประมาณ ๑ ช้อนกาแฟ เนื่องจากพระวักกะ(ไต)พิการซึ่งเป็นพระโรคประจำพระองค์ซึ่งเป็นเหตุให้พระองค์เสด็จประพาสยุโรปเพื่อรักษาพระองค์ในครั้งที่ สอง ในวันสวรรคตนั้นทรงอ่อนเพลีย หมดได้ฉีดยาให้พระหทัยแรง แต่ด้วยไม่ทรงพระบังคลเบาเลย ทรงหมดพระอัสสาสะ เมื่อเวลา ๒๔.๔๕ นาฬิกาของคืนวันเสาร์ที่ ๒๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๕๓ ซึ่งในสมัยนั้นการแพทย์ยังไม่พัฒนาก้าวหน้าเหมือนปัจจุบันและถ้าดูจากพระราชหัตถเลขา ยังคงใช้ยาสมุนไพรไทยในการรักษาพระโรค อาจด้วยความเชื่อส่วนพระองค์ และยาสมุนไพร ยังคงเป็นยาที่มีความสำคัญต่อผู้คนในสยามประเทศในเวลานั้นอีกประการหนึ่งด้วย ส่วนวันนี้จะนำเสนอบทความ ยกมาจากพระราชหัตถเลขา ที่ผมค้างไว้ คือ ตอนที่ ๒ หน้า ๔๐ ถึงหน้า ๔๑ ดังนี้
ของแฟแชนเนเบอลในวังเดี๋ยวนี้มีอีกอย่างหนึ่ง คือถุงตีนสี
แฟแชนอันนี้ได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อกลับจากยุโรป ใส่ถุงตีนสีและเกือก
หนังสีก็มีความปรารถนาที่จะใส่กันขึ้นมาบ้าง จนความรั่วรู้ไปถึง
อ้ายพวกห้างสั่งมาขาย เกือกนั้นมาประเดี๋ยวเดียวหมดไม่ทันรู้ แต่
ถึงรู้ก็ไม่รู้จักขนาดตีนคงไม่กล้าส่ง จึงได้แต่ถุงตีนส่งขึ้นมาสีล่ะคู่
ที่เขาใช้กันอยู่เวลานี้แฟแช่นอื่นยังไม่สู้เดิน
คราวนี้ว่าด้วยเรื่องคลั่ง ชาววังนั้นคลั่งละครกรมนรา ฯ ทุกรูป
ทุกนาม ตั้งแต่เจ้านายลงไปจนถึงขี้ข้า ตั้งแต่เจ้าไปแล้วยิ่งมีหลาย
หนเข้า และตามแบบที่เจ้าตั้งไว้ไม่ให้ผู้ชายมาดู แต่นั้นมาก็ไม่มี
ผู้ชายได้ดูอีกเลย ผลที่ผู้ชายไม่ได้ดูนั้น ทำให้ทุรนทุราย สุดแต่
กรมนรา ฯ มาเล่นอะไร ในวังแล้วกลับเอาไปเล่นที่ปรีดาลัย คนก็
ไปดูมาก แต่ก่อนโรงละครกรมนรา ฯ ได้เคยไป รนไม่เกิน ๕๐
ตั้งแต่มาเล่นในวังแล้วคราวนี้เล่นวันใดที่นั่งไม่พอเสมอ แต่เพียง
เรื่องที่มาเล่นในวังแล้ว ไปเล่นข้างนอก ได้ส่วนเงินข้างนอกถึง
หมื่นบาทกว่าแล้ว กรมนรา ฯ ร้องว่าเดชุพระบาระมี
สังเกตความนิยมของคนชั้นกลังนี้ เห็นจะนิยมเรื่องสาวเครือฟ้า
ยิ่งกว่าเรื่องอื่น ๆ จนได้รับหนังสือไปรษณีย์ขอให้เล่นซ้ำในวิกนี้
ข้อที่นิยมเห็นจะเป็นด้วยเหตุหลายอย่าง ๆ หนึ่งนั้นเป็นเรื่องละครฝรั่ง
อีกอย่างหนึ่งนั้นคงจะโปรดจึงได้เล่าไว้ในหนังสือไกลบ้าน แต่ข้อ
สำคุญที่สุดนั้นอีนางพร้อมเป็นสาวเครือฟ้า เข้ามาเล่นในวังทำเมื่อ
เชือดคอตายได้รางวัลครั้งเดียวถึง ๑๐๐ บาท มีผู้ปรารภกันว่าถ้า
เจ้ากลับลงมาควรจะมีละครสมโภชเสีย ๓ วัน นึกวิตกกลัวแต่จะ
ต้องซ้ำ เพราะเจ้าไม่ได้เห็นมากเรื่อง เขาทายกันว่าเจ้าจะขอซ้ำ
เรื่องสาวเครือฟ้านี้
ตอนนี้ทรงตรัสถึงความนิยมในสมัยนั้นซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่ และที่สำคัญคือเราได้ทราบว่า พระราชชายา เจ้าดารารัศมี ทรงเป็นผู้ตั้งกฎไม่ให้ผู้ชายมาดูละครในวัง ร่วมกับสตรีในวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ สำคัญอย่างหนึ่งถึงความที่พระราชชายา ฯ ทรงเป็นผู้ที่ทรงวางกฏเกณฑ์ในพระบรมมหาราชวัง ในกรณีใดกรณีหนี่งได้เป็นที่ยอมรับ และการที่พระองค์หน้าจะเป็นผู้ที่สนใจ ในการแสดงต่าง ๆ อีกด้วย พระราชหัตถเลขาในฉบับนี้ยังไม่จบคงต้องต่อในคราวต่อไปขอบคุณครับ.
ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)