ในวันที่ ๕ ธันวาคม ที่ผ่านมาเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ซึ่งทรงเป็นพระนันดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทรและสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๗๐ ณ.รัฐแมสสะชูเสตล์ส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลา ๘๓ ปีล่วงมาแล้ว ทรงเฉลิมพระเกียรติยศอย่างเป็นทางการเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีบรมราชาภิเศกวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ ทรงเสด็จพระทับเหนือพระที่นั่งภัทรบิฐ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณฝ่ายตะวันตก พระราชครูวามเทพมุนี กล่าวพระเวทสรรเสริญเบิกศิวาลัยไกรลาส เชิญพระสุพรรณบัฎ เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องขัติยราชวราภรณ์ เครื่องขัติยราชูปโภค และพระแสงราชศัสตราวุธ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลเป็นภาษามคธ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระปฐมบรมราชโองการสุรสิงหนาประถมธรรมิกราชวาจาพระราชทานอารักขาแก่ประชาชนเป็นภาษาไทยว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
ซึ่งตั้งแต่เวลานั้นจนถึงวันนี้ทรงพระราชกรณียกิจอันมากมายนานับประการเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยามซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่ทรงพระราชทานแก่พระสกนิกรชาวไทยและผู้ที่อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารตลอดมา ขอทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
ก่อนอื่นต้องขอสูมาท่านที่ติดตามด้วยครับเนื่องจากเครื่องผมเป็นโน๊ตบุ๊ค ทำให้มีข้อจำกัด ทำให้เกิดอาการป่วยต้องส่งเข้าโรงซ่อมเสียหลายวัน ก็เลยไม่สามารถนำเสนออย่างต่อเนื่องตอนนี้ซ่อมสุขภาพแล้วหวังว่าคงจะไม่ป่วยอีกในเร็ววันก็จะนำเสนอเรื่องราว ต่อเนื่องไปครับ
นี้ก็ใกล้วันคล้ายวันสิ้นคล้ายวันพระชนม์ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี ในวันที่ ๙ ธันวาคม นี้ ซึ่งจะมีงานที่พระตำหนัก ดาราภิรมณ์ ทุกปี หลายปีก่อนผมได้รับการ์ดเชิญ หรือหนังสือเชิญร่วมงานเสมอ แต่ปีนี้หายเงียบสงสัยไม่มีเกียรติพอที่เขาจะเชิญ เลยไม่รู้ว่าทางพระตำหนัก ฯ จะจัดอะไรอย่างไร จะได้ไปร่วมงานถูก สงสัยกลายเป็นคนตกหล่นเสียแล้ว ใครที่อ่านบทความผมทราบรายละเอียด ช่วยกรุณาแจ้งให้ผมทราบที ที่ ๐๘๙ ๕๕๕ ๐๐๘๙ ครับ เพราะถึงเขาไม่เชิญมา แต่อย่างใดก็จะไปถวายสักการะ เพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน ที่มีคุณูปการณ์ต่อแผ่นดินล้านนา ครับ
เอาล่ะครับบ่นเป็นตาแก่เสียหลายบรรทัดมาต่อในพระราชนิพนธ์เรื่อพระราชพิธีสิบสองเดือนดีกว่าน่ะครับ
หน้าที่ ๒๓ ถึงหน้าที่ ๒๔
คำตักเตือนในการฉลองไตรนี้ เมื่อวันขึ้น ๑๓ ค่ำพระสงฆ์
ที่สวดมนต์ถึง ๕๐๐ เศษฤา ๖๐๐ รูป เทียนซึ่งถวายพระสงฆ์ใน
เวลาสวดมนต์นั้นมาก มหาดเล็กควรจะต้องคอยรับ แลเวลา
ที่พระเจ้าลูกเธอจะไปถวายควรต้องคอยยกตาม อย่าให้ต้องรั้งรอ
กับเนิ่นช้า
อนึ่งจะต้องเตือนอย่างจืด ๆ อีกอย่างหนึ่งว่า ถ้าเวลาพระ
สงฆ์ฉันแล้วจำจะต้องยถา จำจะต้องทรงพระเต้าษิโณทก ไม่
มีเหตุการอันใดที่จะยกเว้นพระเต้าษิโณทกได้เลยในเวลาพระสงฆ์
ฉันแล้ว ซึ่งมหาดเล็กบางคนทำอึก ๆ อัก ๆ ไม่แน่ใจว่าจะทรง
ฤาไม่ทรง ฤาทอดธุระเสียว่าไม่ทรงนั้นเปนการเซอะแท้ ไม่มีข้อ
ทุ่มเถียงอย่างไรเลย
อนึ่งในเวลาเมื่อสวดมนต์จบแลเวลาเลี้ยงพระแล้ว มีเสด็จ
ออกขุนนางข้าราชการเฝ้าทูลใบบอกแลข้อราชการต่าง ๆ ได้เหมือน
ออกขุนนางตามเคย
อนึ่งในเวลาค่ำที่ทรงธรรมนั้น พอเสด็จออกมหาดเล็กก็ต้อง
นำเทียนชนวนเข้าไปตั้ง ทรงจุดเรื่องบูชาเทวดาแล้วต้องคอยรับ
เทียนที่บูชาพระมหาเสวตฉัตร ซึ่งจะปล่อยให้ทรงจุดทรงวางใน
ตะบะอย่างเช่นมหาดเล็กเคยทำมาบ่อย ๆ นั้นไม่ถูก เมื่อรับเทียน
นั้นไปแล้วเคยไปติดที่บัวหลังพระมหาเสวตรฉัตร ซึ่งไม่เห็นมหาด
เล็กไปติดมาช้านานแล้ว จำไม่มีใครรู้ฤาประการใดสงไสยอยู่ เมื่อ
ทรงจุดเทียนเทวดาแล้วทรงจุดเทียนดูหนังสือ ไม่ต้องรอคอยจน
ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้วจึงยกไปให้เปนการช้ายืดยาว พอ
ทรงจุดแล้วก็ยกไป ถ้าธรรมมาศน์กว้างตั้งบนธรรมมาศน์ทั้งเชิง ถ้า
ธรรมมาศน์แคบมีจงกล ถอนเทียนออกปักที่จงกล ถ้าธรรมมาศน์
แคบมีม้าตั้งข้าง ๆ ให้ตั้งบนม้า การที่ถอนเทียนออกติดกับกง
ธรรมมาศน์นี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่โปรด ได้
กริ้วมาหลายครั้งแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ก็มีราย ๆ อยู่บ้างไม่สู้หนานัก
ขอให้เข้าใจว่าไม่โปรดเหมือนกัน ฯ
ในพระราชนิพนธ์ตอนนี้เราจะได้ทราบถึงรายละเอียดพระราชพิธี แลการปฏิบัติของเจ้าพนักงานซึ่งยังมีข้อบกพร่องและพระองค์ทรงตักเตือน และทรงพระราชทานความคิดเห็นของความไม่เหมาะสมต่าง ๆ ด้วยความพระราชสนพระทัย ให้พิธีกรรมถูกต้องตามพระราชพิธี อย่างละเอียดถี่ถ้วย.
ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)