ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553
MUSEUM BENJAPON: พระราชพิธีการลอยพระประทีป เดือนสิบสอง
MUSEUM BENJAPON: พระราชพิธีการลอยพระประทีป เดือนสิบสอง: " ครับเรามาทราบถึงพระราชพิธีลอยพระประทีปในพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กันต่อเลยน่ะครับ หน้าที่ ๒๗ ถึงหน้าที่ ..."
พระราชพิธีการลอยพระประทีป เดือนสิบสอง
ครับเรามาทราบถึงพระราชพิธีลอยพระประทีปในพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กันต่อเลยน่ะครับ
หน้าที่ ๒๗ ถึงหน้าที่ ๒๙
การลอยพระประทีปเปนเวลาที่เสด็จออกนอกกำแพงพระราช
วัง แลกำแพงพระนครเวลากลางคืน จึงได้จัดการป้องกันรักษา
แขงแรง การที่จัดทั้งปวงนี้ก็เปนธรรมเนียมเดิม ในเวลาที่
บ้านเมืองไม่ปรกติเรียบร้อย แลจะให้เปนการครึกครื้นในแม่น้ำ
ถ้าจะว่าตามอย่างโบราณที่เปนการเสด็จพระราชดำเนินประพาศลำ
น้ำก็เปนการสมควรกันอยู่ ด้วยเรือที่ทอดทุ่นรักษาราชการนั้นก็
เปนเรือในกระบวนเสด็จพระราชดำเนินทั้งสิ้น แต่ถ้าจะเทียบกับ
การชั้นหลังในประจุบันนี้ ที่เสด็จไปวังเจ้านายในเวลากลางคืน ฤา
เสด็จลงทอดพระเนตรโคมในเวลาเฉลิมพระชนม์พรระษา การป้อง
กันรักษาน้อยกว่าลอยประทีปมากหลายเท่า ก็เปนไปตามเวลาที่
บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป แต่การลอยประทีปนี้ยังคงอยู่ตามแบบ
เดิมเหมือนอย่างเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานพระกฐิน แล
เสด็จประพาศตามธรรมเนียมฉนั้น ที่แพลอยน่าท่าราชวรดิฐมีเรือ
บันลังก์สองลำจอดขนานกัน ในเรือบัลลังก์นั้นแต่เดิมลำในกั้นม่าน
เปนที่พระบรรธม,ที่สรง,ที่ลงพระบังคน ดูเหมือนว่าจะเปนที่ประทับ
อยู่นาน ๆ ตั้งแต่หัวค่ำไปจนดึก เครื่องที่สำหรับตั้งนั้นก็มีพระ
สุพรรณราช แลมีขันพระสุธารสอย่างเช่นเสวยพระกระยาหาร
การป้องกันรักษาห้ามเรือที่ไม่ไห้เดินในทุ่นตั้งแต่หัวค่ำไปจนดึก
เวลาเสด็จขึ้น ดูเหมือนว่าในครั้งใดครั้งหนึ่งพระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จ
ลงไปประทับอยู่ตั้งแต่หัวค่ำจนสิ้นเวลาลอยพระประทีป สรงเสวย
ในนั้น แต่ครั้นมาถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้ารับสั่ง
ให้เลิกที่สรงที่พระบรรธม คงแต่เครื่องพระสุธารศซึ่งเจ้าพนัก
งานยังจัดอยู่ตามเคย ในเรือบัลลังก์ทั้งสองลำนั้นกั้นม่านสกัดทั้ง
หัวเรือท้ายเรือ ข้างหัวเรื่อท้ายเรือเปนข้างน่า ที่ตรงม่านสกัด
หัวเรือท้ายเรือมีม่านยืดออกไปในน้ำ ยังมิให้เจ้าพนักงานที่อยู่
หัวเรือท้ายเรือแลเห็นเข้ามาข้างใน ต่อมาเมื่อเวลาจะปล่อยเรือ
กระทงจึงชักม่าน ข้างเหนือมีม่านท่องสกัดเสมอแนวพนักข้าง
ในอีกชั้นหนึ่งเพราะใกล้ที่ประทับ ในระหว่างม่านนั้นเปนที่สำหรับ
ท้าวนางเถ้าแก่ประจำคอยรับเรือกระทง ข้างใต้เปนที่สำหรับเจ้า
คุณท้าวนางเถ้าแก่ฤาเจ้านายซึ่งไม่ต้องจุดกระทงเฝ้าในเรือบัลลังก์
ลำนอก เรือบัลลังก์ลำในเปนที่พนักงานนั่งนอกพนัก ในพนัก
เปนที่เจ้าจอมอยู่งาน ส่วนในเรือบัลลังก์ลำนอกนั้นทอด
พระยี่ภู่ตั้งพระแสงเปนที่ประทับ มีเจ้าจอมอยู่งานเฝ้าอยู่ในนั้น
เฉภาะที่เชิญเครื่อง กับพระเจ้าลูกเธอที่ตามเสด็จ ชานเรือบันลังก์
ลำนอกตรงช่องพนักทอดที่ประทับเปนที่ทรงจุดกระทง ต่อนั้นไป
เปนที่เจ้านายแลเจ้าจอมจุดกระทง
คงยังมีรายละเอียดอีกมากจะนำมาเสนอต่อไปน่ะครับ
หน้าที่ ๒๗ ถึงหน้าที่ ๒๙
การลอยพระประทีปเปนเวลาที่เสด็จออกนอกกำแพงพระราช
วัง แลกำแพงพระนครเวลากลางคืน จึงได้จัดการป้องกันรักษา
แขงแรง การที่จัดทั้งปวงนี้ก็เปนธรรมเนียมเดิม ในเวลาที่
บ้านเมืองไม่ปรกติเรียบร้อย แลจะให้เปนการครึกครื้นในแม่น้ำ
ถ้าจะว่าตามอย่างโบราณที่เปนการเสด็จพระราชดำเนินประพาศลำ
น้ำก็เปนการสมควรกันอยู่ ด้วยเรือที่ทอดทุ่นรักษาราชการนั้นก็
เปนเรือในกระบวนเสด็จพระราชดำเนินทั้งสิ้น แต่ถ้าจะเทียบกับ
การชั้นหลังในประจุบันนี้ ที่เสด็จไปวังเจ้านายในเวลากลางคืน ฤา
เสด็จลงทอดพระเนตรโคมในเวลาเฉลิมพระชนม์พรระษา การป้อง
กันรักษาน้อยกว่าลอยประทีปมากหลายเท่า ก็เปนไปตามเวลาที่
บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป แต่การลอยประทีปนี้ยังคงอยู่ตามแบบ
เดิมเหมือนอย่างเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานพระกฐิน แล
เสด็จประพาศตามธรรมเนียมฉนั้น ที่แพลอยน่าท่าราชวรดิฐมีเรือ
บันลังก์สองลำจอดขนานกัน ในเรือบัลลังก์นั้นแต่เดิมลำในกั้นม่าน
เปนที่พระบรรธม,ที่สรง,ที่ลงพระบังคน ดูเหมือนว่าจะเปนที่ประทับ
อยู่นาน ๆ ตั้งแต่หัวค่ำไปจนดึก เครื่องที่สำหรับตั้งนั้นก็มีพระ
สุพรรณราช แลมีขันพระสุธารสอย่างเช่นเสวยพระกระยาหาร
การป้องกันรักษาห้ามเรือที่ไม่ไห้เดินในทุ่นตั้งแต่หัวค่ำไปจนดึก
เวลาเสด็จขึ้น ดูเหมือนว่าในครั้งใดครั้งหนึ่งพระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จ
ลงไปประทับอยู่ตั้งแต่หัวค่ำจนสิ้นเวลาลอยพระประทีป สรงเสวย
ในนั้น แต่ครั้นมาถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้ารับสั่ง
ให้เลิกที่สรงที่พระบรรธม คงแต่เครื่องพระสุธารศซึ่งเจ้าพนัก
งานยังจัดอยู่ตามเคย ในเรือบัลลังก์ทั้งสองลำนั้นกั้นม่านสกัดทั้ง
หัวเรือท้ายเรือ ข้างหัวเรื่อท้ายเรือเปนข้างน่า ที่ตรงม่านสกัด
หัวเรือท้ายเรือมีม่านยืดออกไปในน้ำ ยังมิให้เจ้าพนักงานที่อยู่
หัวเรือท้ายเรือแลเห็นเข้ามาข้างใน ต่อมาเมื่อเวลาจะปล่อยเรือ
กระทงจึงชักม่าน ข้างเหนือมีม่านท่องสกัดเสมอแนวพนักข้าง
ในอีกชั้นหนึ่งเพราะใกล้ที่ประทับ ในระหว่างม่านนั้นเปนที่สำหรับ
ท้าวนางเถ้าแก่ประจำคอยรับเรือกระทง ข้างใต้เปนที่สำหรับเจ้า
คุณท้าวนางเถ้าแก่ฤาเจ้านายซึ่งไม่ต้องจุดกระทงเฝ้าในเรือบัลลังก์
ลำนอก เรือบัลลังก์ลำในเปนที่พนักงานนั่งนอกพนัก ในพนัก
เปนที่เจ้าจอมอยู่งาน ส่วนในเรือบัลลังก์ลำนอกนั้นทอด
พระยี่ภู่ตั้งพระแสงเปนที่ประทับ มีเจ้าจอมอยู่งานเฝ้าอยู่ในนั้น
เฉภาะที่เชิญเครื่อง กับพระเจ้าลูกเธอที่ตามเสด็จ ชานเรือบันลังก์
ลำนอกตรงช่องพนักทอดที่ประทับเปนที่ทรงจุดกระทง ต่อนั้นไป
เปนที่เจ้านายแลเจ้าจอมจุดกระทง
คงยังมีรายละเอียดอีกมากจะนำมาเสนอต่อไปน่ะครับ
พระราชพิธีการลอยพระประทีป เดือนสิบสอง
การลอยพระประทีปในพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตอนต่อมามีดังนี้
หน้าที่ ๒๗ ถึง หน้าที่ ๒๙
การเก่ายกไว้ จะขอว่าแต่ที่กรุงเทพ ฯ นี้ การลอยประทีป
ในเดือน ๑๒ เปนการใหญ่กว่าลอยประทีปในเดือน ๑๑ ด้วยอากาศ
ปราศจากฝน แลการพระราชกุศลก็เปนการกลางวันมากกว่า
กลางคืน นับว่าเปนเวลาว่างกว่าเดือน ๑๑ ที่ในพระบรมมหา
ราชวังน่าวัดพระศรีรัตรสาศดาราม มีดอกไม้พุมบูชา ๑๐ พุ่ม
แต่ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุด ชาวที่นำเทียนชนวนมา
ถวายทรงจุดในเวลาทรงธรรมกลางคืน แต่ส่วนซึ่งบูชาหอพระใน
พระบรมมหาราชวัง ปักพุ่มดอกไม่ย่อม ๆ ที่ชลาที่ทรงบาตรข้าง
พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เสด็จพระราชดำเนินทรงจุดดอกไม้ก่อน
ที่จะออกทรงธรรม มีแตรสังข์พิณพาทย์ผู้หญิงประโคมด้วย
วันนี้ขออนุญาตินำเสนอสั้น ๆ เพราะ ง่วงนอนมากเลยครับ เพราะมีนิทรรศการที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ ต้องทำหลายหน้าที่ และนอนน้อยด้วยกังวล ก็ขออนุญาติน่ะครับ
หน้าที่ ๒๗ ถึง หน้าที่ ๒๙
การเก่ายกไว้ จะขอว่าแต่ที่กรุงเทพ ฯ นี้ การลอยประทีป
ในเดือน ๑๒ เปนการใหญ่กว่าลอยประทีปในเดือน ๑๑ ด้วยอากาศ
ปราศจากฝน แลการพระราชกุศลก็เปนการกลางวันมากกว่า
กลางคืน นับว่าเปนเวลาว่างกว่าเดือน ๑๑ ที่ในพระบรมมหา
ราชวังน่าวัดพระศรีรัตรสาศดาราม มีดอกไม้พุมบูชา ๑๐ พุ่ม
แต่ไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุด ชาวที่นำเทียนชนวนมา
ถวายทรงจุดในเวลาทรงธรรมกลางคืน แต่ส่วนซึ่งบูชาหอพระใน
พระบรมมหาราชวัง ปักพุ่มดอกไม่ย่อม ๆ ที่ชลาที่ทรงบาตรข้าง
พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เสด็จพระราชดำเนินทรงจุดดอกไม้ก่อน
ที่จะออกทรงธรรม มีแตรสังข์พิณพาทย์ผู้หญิงประโคมด้วย
วันนี้ขออนุญาตินำเสนอสั้น ๆ เพราะ ง่วงนอนมากเลยครับ เพราะมีนิทรรศการที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ ต้องทำหลายหน้าที่ และนอนน้อยด้วยกังวล ก็ขออนุญาติน่ะครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)