ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
MUSEUM BENJAPON: พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี
MUSEUM BENJAPON: พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี: " สว้สดีครับก่อนอื่นต้องขอโทษสำหรับท่านที่ติดตามที่ผมไม่ได้มาลงเรื่องต่อเนื่องเมื่อวานนี้ก็จากการที่ผมจะจัดนิทรรศการวันจันทร์ที่จะถึงนี้ที่..."
พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี
สว้สดีครับก่อนอื่นต้องขอโทษสำหรับท่านที่ติดตามที่ผมไม่ได้มาลงเรื่องต่อเนื่องเมื่อวานนี้ก็จากการที่ผมจะจัดนิทรรศการวันจันทร์ที่จะถึงนี้ที่นอร์ทเทิร์น วิลเลจ ชั้น ๒ ศุนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ เวลา หกโมงเย็น เรียนเชิญทุกท่านครับ และก็เลยเร่งงานให้ทันทำให้ขาดตอนวันนี้ผมจึงนำพระราชโทรเลข ซึ่งอยู่ในหน้าที่ ๔๘ ของพระราชประวัติ พระราชชายา ฯ มานำเสนอดังนี้
หน้าที่ ๔๘
(สำเนาพระราชโทรเลข)
ที่ ๒๖
วันที่ ๒๖ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๘
เจ้าดารารัศมี เชียงใหม่
ลูกเลาแก้ว ที่ขอชื่อนั้น ชื่อประกายแก้ว ประกายแปลว่าดาว
ขออำนวยพรให้มีอายุยืนนาน และมีความเจริญทุกประการ ข่าวน้ำ
ที่เชียงใหม่เติมความวิตก กลัวน้ำมากขึ้นอีก น้ำต้นมือเข้าทุ่งจนไถนา
ไม่ได้มาก กล้าลอย เวลานี้กำลังลดลง กลัวว่าจะกระแทกใหญ่
มาอีก วันเสาร์หน้าจะไปบางปะอิน ลงเรือใหม่ ค้าง ๒ คืน
ได้สั่งให้ทำเหรียญรูปดาว หน้าหนึ่งเป็นอักษรชื่อไขว้ หน้าหนึ่งบอก
งานฉลองกู่ เป็นเครื่องห้อยนาฬิกา รูปอัพภัตร คล้ายตราจุลจอม
เกล้า ฯ กำหนดให้ทำ ๑,๐๐๐ ดวง ได้สั่งให้ทำทอง ๕๐ กาไหล่
๒๕๐ นอกนั้นเป็นเงิน ช่างว่า ๑๕ วันจะแล้ว จะได้รีบส่งขึ้นไปให้
ทันงาน อยากให้กะใช้ดูว่าอย่างทองและกาไหล่เท่าที่กำหนดจะพอ
หรือไม่พอ จะต้องการอย่างใดเท่าใด ให้บอก.
(พระบรมนามาภิธัย) สยามินทร์
ในสำเนาพระราชโทรเลขฉบับนี้ทรงตั้งชื่อ ประกายแก้ว ซึ่งเป็นบุตรีของเลาแก้ว ในที่นี้ผมค้นหาเรื่องของ เจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่ ซึ่งในหนังสืออนุสรณ์งานศพ เจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่ ในหนังสือสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือ เขียนไว้ว่า เจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่เป็นบุตรีของเจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ กับ เจ้าแสงดาว (เจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ เป็นบุตรของเจ้าราชวงคศ์เลาแก้ว กับเจ้าจันทร์จร ภายหลังเจ้าจันทร์จรสิ้นแล้ว พระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ทรงรับรับเจ้าแก้วมงคลอุปการะตั้งแต่อายุ ๖ ขวบ) และปีที่เจ้าแก้วมงคลเกิดคือ ๒๔๔๖ และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๓ ต่อมาเมื่อเจ้าแก้วมงคลสมรสในปี ๒๔๗๓ มีธิดาคนเดียวคือ เจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่ ซึ่งหากดูจาก พ.ศ.ที่เจ้าแก้วมงคล มีธิดา หลังจากปี ๒๔๗๓ คือ พ.ศ. ๒๔๗๕ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตไปแล้วถึง ๒๒ ปี ทำให้ผมคิดว่าถ้าตามเป็นจริง เจ้าราชวงศ์เลาแก้ว คงจะมีบุตรีที่ชื่อประกายแก้วอีกท่านหนึ่งซึ่งได้รับพระราชทานชื่อที่ไม่ใช่ เจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่ ที่เกิด ณ ศาลาลอย สวนเจ้าสบาย ตำหนักดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพราะเจ้าแก้วมงคลมีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน(เจ้าราชศ์เลาแก้ว) ถึง ๑๓ คน
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ทรงวิตกคือเรื่องน้ำเหนือถ้าเทียบปัจจุบันก็ยังคงเป็นอยู่เหมือน ๑๐๐ ปีที่แล้ว
ซึ่งถือว่าเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ
ส่วนเหรียญที่ระลึกฉลองกู่ ตัวอักษรย่อ อ หมายถึงพระเจ้าอินทวิชยานนท์ ด หมายถึงพระราชชายาเจ้าดารารัศมี อีกด้านมีคำจารึกว่า ฉลองกู่ ร.ศ. ๑๒๘ ครับ.
หน้าที่ ๔๘
(สำเนาพระราชโทรเลข)
ที่ ๒๖
วันที่ ๒๖ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๘
เจ้าดารารัศมี เชียงใหม่
ลูกเลาแก้ว ที่ขอชื่อนั้น ชื่อประกายแก้ว ประกายแปลว่าดาว
ขออำนวยพรให้มีอายุยืนนาน และมีความเจริญทุกประการ ข่าวน้ำ
ที่เชียงใหม่เติมความวิตก กลัวน้ำมากขึ้นอีก น้ำต้นมือเข้าทุ่งจนไถนา
ไม่ได้มาก กล้าลอย เวลานี้กำลังลดลง กลัวว่าจะกระแทกใหญ่
มาอีก วันเสาร์หน้าจะไปบางปะอิน ลงเรือใหม่ ค้าง ๒ คืน
ได้สั่งให้ทำเหรียญรูปดาว หน้าหนึ่งเป็นอักษรชื่อไขว้ หน้าหนึ่งบอก
งานฉลองกู่ เป็นเครื่องห้อยนาฬิกา รูปอัพภัตร คล้ายตราจุลจอม
เกล้า ฯ กำหนดให้ทำ ๑,๐๐๐ ดวง ได้สั่งให้ทำทอง ๕๐ กาไหล่
๒๕๐ นอกนั้นเป็นเงิน ช่างว่า ๑๕ วันจะแล้ว จะได้รีบส่งขึ้นไปให้
ทันงาน อยากให้กะใช้ดูว่าอย่างทองและกาไหล่เท่าที่กำหนดจะพอ
หรือไม่พอ จะต้องการอย่างใดเท่าใด ให้บอก.
(พระบรมนามาภิธัย) สยามินทร์
ในสำเนาพระราชโทรเลขฉบับนี้ทรงตั้งชื่อ ประกายแก้ว ซึ่งเป็นบุตรีของเลาแก้ว ในที่นี้ผมค้นหาเรื่องของ เจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่ ซึ่งในหนังสืออนุสรณ์งานศพ เจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่ ในหนังสือสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือ เขียนไว้ว่า เจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่เป็นบุตรีของเจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ กับ เจ้าแสงดาว (เจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ เป็นบุตรของเจ้าราชวงคศ์เลาแก้ว กับเจ้าจันทร์จร ภายหลังเจ้าจันทร์จรสิ้นแล้ว พระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ทรงรับรับเจ้าแก้วมงคลอุปการะตั้งแต่อายุ ๖ ขวบ) และปีที่เจ้าแก้วมงคลเกิดคือ ๒๔๔๖ และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๓ ต่อมาเมื่อเจ้าแก้วมงคลสมรสในปี ๒๔๗๓ มีธิดาคนเดียวคือ เจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่ ซึ่งหากดูจาก พ.ศ.ที่เจ้าแก้วมงคล มีธิดา หลังจากปี ๒๔๗๓ คือ พ.ศ. ๒๔๗๕ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตไปแล้วถึง ๒๒ ปี ทำให้ผมคิดว่าถ้าตามเป็นจริง เจ้าราชวงศ์เลาแก้ว คงจะมีบุตรีที่ชื่อประกายแก้วอีกท่านหนึ่งซึ่งได้รับพระราชทานชื่อที่ไม่ใช่ เจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่ ที่เกิด ณ ศาลาลอย สวนเจ้าสบาย ตำหนักดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพราะเจ้าแก้วมงคลมีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน(เจ้าราชศ์เลาแก้ว) ถึง ๑๓ คน
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ทรงวิตกคือเรื่องน้ำเหนือถ้าเทียบปัจจุบันก็ยังคงเป็นอยู่เหมือน ๑๐๐ ปีที่แล้ว
ซึ่งถือว่าเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ
ส่วนเหรียญที่ระลึกฉลองกู่ ตัวอักษรย่อ อ หมายถึงพระเจ้าอินทวิชยานนท์ ด หมายถึงพระราชชายาเจ้าดารารัศมี อีกด้านมีคำจารึกว่า ฉลองกู่ ร.ศ. ๑๒๘ ครับ.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)