จากเมื่อวันก่อนที่ได้นำเรื่องการเสด็จประพาสที่ต่างๆเพื่อเยี่ยมเยียนราษฏร ของพระราชชายา เจ้าดารารัศมี พระทรงได้ทรงนำสิ่งที่ทรงทอดพระเนตร นำมาส่งเสริมให้เกิดการประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้แก่คนในท้องถิ่นมากมาย หลายด้าน เช่น ด้านการเกษตร ทรงทดลองปลูกไม้ดอกไม้ผล ทรงปลูกดอกกุหลาบซึ่งทรงตั้งชื่อ ว่าจุฬาลงกรณ์ เพราะว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรด ดอกกุหลาบมาก การที่ทรงนำพันธุ์ต้นลำไยมาทดลองปลูกจนกลายเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงของเขตเชียงใหม่ลำพูน การที่ให้มีการทอผ้าขึ้นในคุ้มหลวงทั้งผ้าตีนจก และผ้ายกดอก ที่ไม่มีคนทอ ก็ทรงศึกษาและทดลองจนสามารถที่จะทอออกมาได้และส่งเสริมให้มีการทอผ้าต่อมาจนปัจจุบัน และทรงได้ส่งเสริมด้านดนตรี นาฎศิลป์ เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ ในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังส่งเสริมการศึกษาเช่นประทานที่ดินให้โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย และทรงอุปถัมภ์โรงเรียนในสภาคริสจักรเช่นโรงเรียนดาราวิทยาลัยเป็นต้นนอกจากนั้นทรงทำนุบำรุงศาสนาอยู่ประจำมิได้ขาด ดังจะนำเอาพระประวัติตอนต่อไปมาเสนอดังนี้
ตอนที่ ๙ หน้าที่ ๑๓ ถึง หน้าที่ ๑๕
การบำเพ็ญพระกุศล
โดยปกติพระองค์เคยถวายอาหาร บิณฑบาตร์ และถวายจตุปัจจัยสำหรับวัดและสงฆ์บางรูปเป็นรายเดือนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรตลอดจนสิ้นพระชนม์ไม่มีขาด กับนิมนต์พระสงฆ์มาฉันและถวายของไทยทานเสมอ มีการทำบุญวันประสูติและถวายกฐินทุกปี
การปฏสังขรณ์วัด และปูชนียสถาน ฉะเพาะรายใหญ่ที่บริจจาคทรัพย์แต่ลำพังพระองค์ หรือทรงบริจจาคมากกว่าผู้อื่น เท่าที่จำได้ คือ
๑.ปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุ วิหาร ลาน โบสถ์บนดอยสุเทพแล้วมีการฉลองเป็นงานใหญ่
๒.สร้างและฉลองวิหารวัดชัยชนะมงคล (ป่ากล้วย) อำเภอสาระภี
๓.สร้างและฉลองวิหารวัดขุนเส อำเภอหางดง
๔.สร้างและฉลองวิหารวัดขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม
๕.สร้างและฉลองวิหารพระบรมธาตุ อำเภอจอมทอง
๖.ยกตำหนักบนดอยถวายเป็นของพระธาตุสุเทพ
๗.สร้างตึกณเชียงใหม่ ในบริเวณโรงพยาบาลแม๊คคอร์ มิค
๘.บริจจาคเงินซื้อรถยนต์ประทานสถานีอนามัย เชียงใหม่ ๑ คัน
ส่วนการอุปสมบทภิกษุสามเณรก็มีเสมอไม่ใคร่ขาด เมื่ออุปสมบทแล้ว โดยมากก็ทรงอุปัฎฐาก จุนเจือไม่ทอดทิ้ง อนึ่งเมื่อยังประทับอยู่ที่กรุงเทพ ฯ ถ้าภิกษุสามเณรจากฝ่ายเหนือลงไปศึกษาเล่าเรียน ก็ปวารณาและช่วยเหลือแทบทุกรูป
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว พระองค์ยังได้ประทานที่ดินที่ตั้งโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยเดี๋ยวนี้ กับประทานที่ดินให้เป็นที่ตั้งสโมสรคณะราษฎรหรือสโมสรนวรัฐ (ฉะเพาะกึ่งทางเหนือ กึ่งทางใต้เจ้าแก้วนวรัฐ ฯ ให้) กับได้ทรงอุปถัมภ์โรงเรียน มีโรงเรียนมหาดเล็กหลวงเชียงใหม่เป็นอาทิ ซึ่งพระองค์ได้ทรงช่วยเหลือด้วยประการต่าง ๆ กับได้อุดหนุนทุนค่าเล่าเรียนให้แก่เด็กนักเรียน ๗-๘ คนด้วย เมื่อทรงอุปถัมภ์โรงเรียนมากเช่นนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระองค์ท่านเป็นกรรมการจัดการโรงเรียนมหาดเล็กหลวงเชียงใหม่ด้วยพระองค์หนึ่ง เมื่อย้ายโรงเรียนมหาดเล็กหลวงเชียงใหม่ไปรวมกับโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย กรุงเทพ ฯ แล้วภายหลังได้ตั้งสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธขึ้น นักเรียนเก่าเหลานั้นยังคิดถึงพระอุปการคุณ จึงได้อัญเชิญเสด็จพระองค์ท่านเป็นสมาชิกพิเศษของสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธ เพื่อเทอดพระเกียรติคุณไว้จนกาลบัดนี้ กับทรงอุปถัมภ์โรงเรียนดาราวิทยาลัยและดรงเรียนอื่นทั้งช่วยเหลือการศึกษาของกุลบุตร์ กุลธิดา มาช้านานตลอดจนสิ้นพระชนม์ชีพ.
ส่วนการกสิกรรม พระองค์ก็ได้เคยเอาพระทัยใส่ คือสละทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อเครื่องใช้ในการทำสวน และพืชพันธุ์ต่าง ๆ จ้างผู้ที่เคยเป็นครูโรงเรียนกสิกรรมมาเป็นหัวหน้าที่สวนเจ้าสบาย อำเภอแม่ริม เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ราษฏรทั่วไปด้วย.
จะเห็นได้ว่าพระราชายา เจ้าดารารัศมี ทรงมีสายพระเนตรยาวไกล และมีความคิดที่ทันสมัย กว่าสตรีในยุกต์เดียวกันทรงได้สร้างงาน สร้างคนและมีคุณูปการต่อชาวเชียงใหม่และสถานที่ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนอย่างทั่วถึงตลอดพระชนม์ชีพ
ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553
พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี
รูปแกะสลักของอียิปต์ที่คุณพ่อถ่ายไว้
สองสามวันที่แล้วผมได้เปิดกระเป๋าเดินทางใบเก่าของคุณพ่อซึ่งไม่ได้เปิดมาตั้งแต่คุณพ่อเสียชีวิต(พ.ศ. ๒๕๒๓) ได้พบรูปเก่าๆที่คุณพ่อถ่ายไว้เมื่อครั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและเดินทางรอบโลกประมาณ ๖๐-๗๐ ปีที่แล้ว ท่านจะถ่าย ล้าง รูปด้วยตนเอง เป็นรูปขาวดำขนาด ๑๙ คูณ ๒๔ เซ็นติเมตร มีเป็นจำนวนร้อย ร้อยรูป เป็นรูปถ่ายสถานที่ต่างๆ และผู้คน การทำการเกษตร ผมได้แยกรูปออกมาเป็นหมวดหมู่ รูปชุดนี้เป็นรูปงานแกะสลักหินเป็นรูปบุคคลของอียิปต์ ซึ่งบางรูปเป็นเทพพระเจ้าซึ่งผมไม่แน่ใจ ส่วนมากที่เรามักเห็นบ่อยๆ เช่นเทพราหรือเร (Re)หรือสุริยเทพ เป็นเทพแห่งความเป็นอมตะ มีรูปร่างเป็นคน หัวเป็นเหยี่ยวและมีดวงอาทิตย์อยู่บนศรีษะ เทพโอซิริส(Osiris) เทพแห่งแม่น้ำไนล์ ผู้ตัดสินว่าดวงวิญญานใครจะไปสู่สวรรค์ มีรูปร่างหน้าตาเป็นกษัตริย์มีเครา ถือคทาหัวขอ และแซ่ เทพไอซิส( Isis) เทพแห่งเวทมนต์ มีรูปร่างเป็นผู้หญิงสรวมหมวกรูปบรรลังก์ ส่วนเทพอีกองค์ที่เป็นที่รู้จักคือเทพฮอรัส( HoruS) เทพแห่งท้องฟ้า มีศรีษะเป็นเหยี่ยวแต่สรวมหมวกคล้ายเทพโอซิริส เทพอีกองค์ที่มักเห็นบ่อยๆ คือเทพอนูบิส(Anubis)เทพแห่งความตาย เป็นเทพที่รับดวงวิญญาณคนตายและป้องกันไม่ให้ร่างเน่าเปื่อย
รูปที่ผมนำมาเสนอนั้นผมไม่ทราบว่าจัดแสดงอยู่ ณ ที่ใด ถ้าหากท่านผู้อ่านมีข้อมูลกรุณาแจ้งให้ผมทราบจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ
รูปที่ผมนำมาเสนอนั้นผมไม่ทราบว่าจัดแสดงอยู่ ณ ที่ใด ถ้าหากท่านผู้อ่านมีข้อมูลกรุณาแจ้งให้ผมทราบจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)