ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553
MUSEUM BENJAPON: พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหา...
MUSEUM BENJAPON: พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหา...: " นี้ก็เข้าเดือนอ้ายมาหลายวันแล้ววันนี้ก็ขึ้น ๗ ค่ำเดือนอ้ายแล้วผมยังนำเสนอพระราชพิธีเดือนสิบสองไม่จบเลยตั้งใจว่าจะนำเสนอจบเป็นเดือนๆไป..."
พระราชพิธีการลอยพระประทีป เดือนสิบสอง
ตามที่ผมได้เรียนไปแล้วว่าการลอยพระประทีปนี้มีเนื้อหาที่ยาวจะค่อย ๆนำเสนอไปจนจบน่ะครับ
หน้าที่ ๓๑ ถึงหน้าที่ ๓๒
บรรดาเรือที่ทอดทุ่นทั้งปวงมีปืนหลักทอง ปีนจ่ารงค์ มีโคม
เพ็ชร โคมสานประจำทุกลำเรือ แต่เจ้ากรมพระตำรวจนั้นแห่เสด็จ
ลงไปถึงท่าราชวรดิฐแล้วจึงได้ลงเรือไปขับทุ่นตามน่าที่ เวลาเสด็จ
ขึ้นเจ้ากรมพระตำรวจไม่ได้แห่เสด็จ ในเวลาเมื่อลอยพระประทีป
นั้นมีเรือคอยปักโคมกลีบบัว พายขึ้นล่องอยู่ทั้งข้างนอกข้างใน
ทุ่นสายในจนตลอดเวลาเสด็จขึ้น บนฝั่งข้างฝั่งตวันตกมีเจ้ากรม
ปลัดกรมไพร่หลวงประจำรักษาตรงน่าเรือบัลลังก์ ๕ กอง ข้างฝั่ง
ตวันออกบนชลา พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัยมีพิณพาทย์ผู้หญิงสำรับ ๑
โขลนนั่งรายตามชลา เจ้าจอมอยู่งานประจำโมงยามแลเถ้าแก่
รับเสด็จบนพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ทหารรักษาป้อม ๒ ป้อมแลราย
ทางตลอดเข้ามาจนในพระบรมมหาราชวัง เจ้ากรมปลัดกรมไพร่
หลวงตั้งกองอีก ๒ กอง คือข้างใต้ฉนวนกอง ๑ ท่าขุนนางกอง ๑
กระทงหลวงซึ่งสำหรับทรงลอยที่มีมาแต่เดิมนั้น คือเรือรูป
สัตว์ต่าง ๆ เรือศรี เรือไชย เรือโอ่ เรือคอน แลมีเรือหยวกติด
เทียน ๒ เล่มธูปดอก ๑ ห้าร้อย แต่ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระ
จอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ลดเรือหยวกลงเสีย เหลือสี่สิบห้าสิบลำ แล
เรือที่ลอยประทีปนั้นของหลวงชำรุดซุดโซมไป โปรดให้ขอแรง
พระบรมวงษานุวงษ์และข้าราชการทำขึ้นทุกกรม เรือหลวงที่ยัง
เหลืออยู่ เรือพระบรมวงษานุวงษ์ที่สิ้นพระชนม์ส่งมาเปนหลวง
ถวายทรงจุดก่อนตอนหนึ่ง แล้วจึงถวายเรือพระบรมวงศานุวงษ์ต่อไป
แต่เรือข้าราชการนั้นเปนเรือกระบวน เมื่อรับสั่งให้ปล่อยเมื่อใด
จึงจุดเทียนปล่อยมาตามกลางน้ำหว่างทุ่นชั้นในกับเรือบัลลังก์ เคย
ปล่อยอยู่เวลาจุดดอกไม้
ส่วนนี้เป็นรายละเอียดที่ทรงไว้ในพระราชนิพนธ์ซึ่งจะเห็นได้ว่าในอดีตเราไม่ได้ทำกระทงเปนรูปดอกบัวแต่เป็นเรือ คล้ายๆในภาคเหนือมีการล่องสะเปา และมีเรือที่ทำจากหยวกด้วยเช่นกันยังคงต้องมีการศึกษาเชิงลึกต่อไปครับขอจบตอนนี้แล้วมาต่อใหม่น่ะครับ.
หน้าที่ ๓๑ ถึงหน้าที่ ๓๒
บรรดาเรือที่ทอดทุ่นทั้งปวงมีปืนหลักทอง ปีนจ่ารงค์ มีโคม
เพ็ชร โคมสานประจำทุกลำเรือ แต่เจ้ากรมพระตำรวจนั้นแห่เสด็จ
ลงไปถึงท่าราชวรดิฐแล้วจึงได้ลงเรือไปขับทุ่นตามน่าที่ เวลาเสด็จ
ขึ้นเจ้ากรมพระตำรวจไม่ได้แห่เสด็จ ในเวลาเมื่อลอยพระประทีป
นั้นมีเรือคอยปักโคมกลีบบัว พายขึ้นล่องอยู่ทั้งข้างนอกข้างใน
ทุ่นสายในจนตลอดเวลาเสด็จขึ้น บนฝั่งข้างฝั่งตวันตกมีเจ้ากรม
ปลัดกรมไพร่หลวงประจำรักษาตรงน่าเรือบัลลังก์ ๕ กอง ข้างฝั่ง
ตวันออกบนชลา พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัยมีพิณพาทย์ผู้หญิงสำรับ ๑
โขลนนั่งรายตามชลา เจ้าจอมอยู่งานประจำโมงยามแลเถ้าแก่
รับเสด็จบนพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ทหารรักษาป้อม ๒ ป้อมแลราย
ทางตลอดเข้ามาจนในพระบรมมหาราชวัง เจ้ากรมปลัดกรมไพร่
หลวงตั้งกองอีก ๒ กอง คือข้างใต้ฉนวนกอง ๑ ท่าขุนนางกอง ๑
กระทงหลวงซึ่งสำหรับทรงลอยที่มีมาแต่เดิมนั้น คือเรือรูป
สัตว์ต่าง ๆ เรือศรี เรือไชย เรือโอ่ เรือคอน แลมีเรือหยวกติด
เทียน ๒ เล่มธูปดอก ๑ ห้าร้อย แต่ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระ
จอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ลดเรือหยวกลงเสีย เหลือสี่สิบห้าสิบลำ แล
เรือที่ลอยประทีปนั้นของหลวงชำรุดซุดโซมไป โปรดให้ขอแรง
พระบรมวงษานุวงษ์และข้าราชการทำขึ้นทุกกรม เรือหลวงที่ยัง
เหลืออยู่ เรือพระบรมวงษานุวงษ์ที่สิ้นพระชนม์ส่งมาเปนหลวง
ถวายทรงจุดก่อนตอนหนึ่ง แล้วจึงถวายเรือพระบรมวงศานุวงษ์ต่อไป
แต่เรือข้าราชการนั้นเปนเรือกระบวน เมื่อรับสั่งให้ปล่อยเมื่อใด
จึงจุดเทียนปล่อยมาตามกลางน้ำหว่างทุ่นชั้นในกับเรือบัลลังก์ เคย
ปล่อยอยู่เวลาจุดดอกไม้
ส่วนนี้เป็นรายละเอียดที่ทรงไว้ในพระราชนิพนธ์ซึ่งจะเห็นได้ว่าในอดีตเราไม่ได้ทำกระทงเปนรูปดอกบัวแต่เป็นเรือ คล้ายๆในภาคเหนือมีการล่องสะเปา และมีเรือที่ทำจากหยวกด้วยเช่นกันยังคงต้องมีการศึกษาเชิงลึกต่อไปครับขอจบตอนนี้แล้วมาต่อใหม่น่ะครับ.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)