วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันปิยมหาราช

           เบญมาศเร็วรับแต่งตัวให้ลูกหมีและน้องจิ๋มเร็วๆเดี๋ยวจะไปไม่ทัน เสียงแม่เร่งให้พี่เลี้ยงช่วยแต่งตัวให้ผมกับน้อง ด้านนอกได้ยินเสียงกลองของวงค์ดุริยางค์ดังมาแต่ไกล นั้นเป็นเสียงที่ทำให้ผมตื่นเต้นอยากออกบ้านในตอนเช้าๆเป็นที่สุด คุณแม่จะจูงผมส่วนคุณพ่อจะอุ้มน้องจุ๋มจิ๋ม เราเดินไปตามถนนพระปกเกล้ามุ่งหน้าไปทางศาลากลาง(หลังเดิม) ผู้คนต่างอุ้มลูกจูงหลานมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน เราเดินไปจนถึงหน้าโรงเรียนยุพราช ซึ่งอดีตเคยเป็นคุ้มหลวงกลางเวียงของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ผู้คนมากมายยืนรอที่ถนนหน้าโรงเรียนยุพราช เสียงวงค์ดุริยางค์ของโรงเรียนต่างๆ พร้อมทั้งขบวนพาเหรดที่แต่งกายเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละโรงเรียนเริ่มทะยอยแห่ผ่านสายตา พร้อมทั้งอัญเชิญพวงมาลาที่ตกแต่งอย่างสวยงามใหญ่โต ผ่านเลี้ยวเข้าไปในสนามฟุตบอลโรงเรียนยุพราชที่ล่ะโรงเรียน วงค์ดุริยางที่สวยงามและแปลกเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียนบูรณศักดิ์ ที่ทุกคนสนใจมาก ดรัมเยอร์และผู้เล่นดนตรีใส่กระโปรงลายสก็อต สรวมรองเท้าถุงเท้ามี ภู่ห้อย ใส่ผ้าพาดเฉียงไหล่และทุกคนเป่าปี่สก็อตที่เสียงแปลกไพเราะ นักเรียนที่เดินตามอย่างแข็งขัน ตามด้วยวงค์ดุริยางค์ในชุดกางเกงขายาวสีน้ำเงินมีแถบขาวด้านข้างและเสื้อนอกสีน้ำเงินมีภู่สีขาวหมวกทรงสูงสีน้ำเงินดูเท๋ห์มาก บรรเลงเพลงมาร์ชอย่างไพเราะ มีนักเรียนใส่กางเกงสีนำเงินเสื้อขาวอัญเชิญพวงมาลาตามมาอีกจำนวนนับร้อยคน เป็นวงดุริยางค์ของโรงเรียนปรินส์รอยแยลวิทยาลัยแน่นอน ตามมาด้วยวงค์ดุริยางที่กางเกงดำมีแถบและเสื้อนอกสีแดงสด สง่างามบรรเลงเพลงมาร์ชมาตามด้วยนักเรียนอีกจำนวนมากเดินเป็นระเบียบคือโรงเรียนมงค์ฟอร์ตวิทยาลัย ตามมาด้วยโรงเรียนยุพราชวงดุริยางสวมเสื้อนอกสีบานเย็น กางเกงดำ แถวนักเรียนอีกมากมาย และก็มีของโรงเรียนอื่นๆ เช่นโรงเรียนดาราวิทยาลัย โรงเรียนเรยีนาเชรีย์วิทยาลัย โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ และหน่วยราชการต่างๆ สลับกับโรงเรียนต่างๆ เรายืนดูตั้งแต่หกโมงเช้าถึงแปดโมงขบวนถึงเข้าไปในสนามโรงเรียนยุพราชจนหมด คุณแม่ และคุณพ่อจะพาเราเข้าไปดูพิธีวางพวงมาลาเมื่อเสร็จพิธี ก็จะได้เห็นวงดุริยางค์เดินออกจากประตูไปอย่างเป็นระเบียบสวย สง่างาม ซึ่งปีหนี่งจะเพียงครั้งเดียวที่จะได้เห็นวงดุริยางค์ออกมาพร้อมเพียงกันในวันปิยมหาราชนี้เอง ทำให้ผมไฝ่ฝันที่จะได้เข้าร่วมในวงดุริยางค์ให้ได้ด้วยความสง่างามนี้เอง หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่จะพาลูกๆค่อยๆเดินดูพวงมาลาที่แต่ละอัน ที่สถานศีกษาหน่วยงานนำมาถวายเป็นเครื่องราชสักการะ ซึ่งแต่ละอันมีความสวยงาม ใหญ่โต นำศิลปะมาตกแต่งอย่างเต็มที่ บางแห่งทำจากผ้ากำมะหยี่ การประดับกระจก หรือใช้เมล็ดพันธ์พืชมาประดับ เป็นพระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มและเป็นประโยชน์ต่อปวงชนชาวไทย เช่นการเลิกทาส การรถไฟ และอื่นๆอีกมากมาย ประชาชนที่เข้ามาชมพวงมาลาต่างก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ คุณพ่อและคุณแม่จะช่วยอธิบายให้ลูกๆฟังถึงความหมายของพวงมาลาแต่ละอัน อันนี้น่ะลูกเขาทำเป็นรูปโซ่คล้องกัน แต่ช่วงที่ขาดหายไปนี้เป็นการแสดงว่า พระปิยมหาราชทรงเลิกทาสน่ะลูก อันนั้นทำเป็นรูปรถไฟ และดอกกุหลาบ พระองค์ทรงโปรดดอกกุหลาบและทรงริเริ่มการรถไฟขึ้นเป็นครั้งแรกน่ะลูกคุณพ่อช่วยเสริม ส่วนอันนั้นเป็นพื้นสีดำทั้งผืนแล้วมีกระจกตัดเป็นวงกลมพอแสงพระอาทิตย์สะท้อนก็ดูเหมือนดวงอาทิตย์ก็มีความหมายว่าพระองค์ทรงเป็นเหมือนแสงอาทิตย์ที่ส่องสว่างขจัดความมืดคือการนำความเจริญทัดเทียมอารยประเทศมาสู้ประเทศของเรา ดูอันนั้นซิครับเป็นรูปคนขี่ม้าลูกเคยไปกรุงเทพฯกับพ่อลูกจำได้ไหมที่พ่อชี้ให้ลุกยกมือไหว้กลางถนนที่กว้างเป็นอนุเสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้าของรัชการที่ ๕ ที่เขาเอาแบบมาทำไว้บนพวงมาลานั้นไงครับคุณพ่อบอก เราเดินดูจนหมดแล้วคุณพ่อคุณแม่ ก็พาออกมาทีริมสนามมีรถขายโรตีสายไหมที่ปั่นมือ คุณแม่ก็ซื้อให้กินซึ่งเป็นเส้นอ่อนนุ่มสีครีมพันมาบนไม้ คนล่ะอัน จากนั้นเราก็พากันกลับบ้านด้วยความตื้นตันและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการลที่ ๕ ซึ่งเราถวายพระนามว่าพระปิยมหาราช พระผู้อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยมิรู้คลาย แต่...........ปัจจุบันนี้วันเวลาที่เปลี่ยนไปความรักยังไม่รู้คลายแต่ด้วยการเปลี่ยนระบบการศึกษาทำให้ช่วงเวลาวันปิยมหาราชเป็นช่วงปิดเทอมทำให้ความคึกคักของงานจืดจางไป แต่ความจงรักภักดียังไม่เสื่อมคลาย

พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี

ที่บ้านคุณตา คุณยาย เป็นบ้านเก๊า(บ้านต้นตระกูล) จึงเป็นที่รวบรวมหนังสือ สิ่งของต่างๆไว้มากมายซึ่งเมื่อมีการรื้อบ้านหลังนี้ทำให้ข้าวของที่สะสมมารุ่นตารุ่นชวดถูกทิ้งและกระจายไปตามบ้านของลูกหลาน ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เพิ่งมารู้ตัวเองว่าเป็นคนผิดที่ไม่รู้คุณค่าของที่บรรพบุรุษเก็บสะสมไว้ ซึ่งกว่าจะรู้ก็เกือบสายไปยังคงเหลืออยู่บ้าง ที่ว่าผมเป็นคนผิดก็คือเมื่อตอนจะรื้อบ้านเก๊าที่ริมแม่น้ำปิง  ประมาณปี พ.ศ.๒๕๒๐ นั้นไม่มีใครช่วยเก็บและขนของมีแต่ผมคนเดียวและที่เก็บของก็ไม่มี ด้วยความมักง่ายและความเหนื่อยของผม ผมจะก็นำของบางส่วนที่ตนเองไม่เห็นคุณค่า เช่นสมุด หนังสือ แผ่นป้ายโฆษณา ล๊อตตารี่เก่าๆ สิ่งของเครื่องใช้ ทิ้งลงในแม่น้ำปิงในตอนกลางคืน เกือบทุกวันเมื่อมาคิดดูในขณะนี้แทบอยากกระโดดลงแม่นำปิงยามหน้าฝนนี้ที่ไม่ร้จักรักษาของเก่า แต่ก็มีบางส่วนที่ยังคงเหลืออยู่ ซึ่งผมเก็บใส่กล่องแล้วเอาไปไว้ที่ตู้ใต้ถุนบ้านอีกหลังในบริเวณเดียวกัน และเมื่อผมเห็นคุณค่าผมมาเปิดกล่องเมื่อยี่สิบปีให้หลัง จึงได้รู้ว่าทำไมปู่ ย่า ตา ชวด จึงเก็บของเหล่านี้ไว้ ทุกอย่างเป็นประวัติศาสตร์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของเชียงใหม่ในอดีต อย่างที่หาไม่ได้จากการอ่านในหนังสือ จึงเป็นเหตุให้ผมนำเรื่องที่เหลือเหล่านั้นมาแบ่งปัน ให้ผู้สนใจได้รับรู้ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะมาอวดอ้างถึงความเป็นตระกูลเก่าแก่ และมีชาติตระกูล อันยาวนาน แต่ผมต้องการให้เรื่องราวในอดีตที่ คนในตระกุลได้สัมผัส ในช่วงเวลาที่ฝ่านมาเป็นส่วนประกอบในการศึกษา วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ สถานที่อยู่อาศัย กับผู้ที่สนใจ ในช่วงระยะ ๑๕๐ ถึง ๒๐๐ ปีที่ผ่านมาของแผ่นดินล้านนา ของทุกชิ้นคงเหลือรอดจากการทิ้งไปนั้นมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ เมื่อผมเปิดกล่องและพบ เป็นหนังสือเล่มสำคัญที่ หน้าจะถ่ายทอดให้ผู้สนใจได้ ทราบ หนังสือเล่มนั้น เป็นหนังสีอปกอ่อน ขนาดเล็กกว่า เอสี่เล็กน้อย มีทั้งหมด ๕๕ หน้า ด้วยความเก่าคาดว่าหน้าจะเป็นกระดาษสีขาวเพราะปัจจุบันกระดาษเป็นสีน้ำตาลอ่อนหมดแล้ว บนหน้าปกเขียนไว้ว่า พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี เจ้าแก้วนวรัฐฯ ผู้ครองนครเชียงใหม่ เรียบเรียง พิมพ์ในงานถวายพระเพลิง ปีจอ
พ.ศ.๒๔๗๗ พิมพ์ที่โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ ถนนบำรุงเมือง ในพระนคร เมื่อเปิดไปหน้าแรกมี อารัมภบท หน้าต่อมาเป็นกระดาษบางรอง พระรูปพระราชชายา เจ้าดารารัศมี เมื่อพระชนม์มากแล้ว  จากนั้นหน้าถัดไปเป็นพระประวัติโดยละเอียดถึงแปดหน้า แล้วเป็นกระดาษบางรองรูปที่ประดิษฐานพระศพ  จากนั้นเป็น พระราชโทรเลขและพระราชหัตถเลขา รัชชกาลที่ ๕ ที่โปรดเกล้าฯ พระราชชายาฯ เมื่อเสด็จเชียงใหม่
พ.ศ. ๒๔๕๑ ( ร.ศ. ๑๒๗-๑๒๘ ) ค้นพบพระราชโทรเลข ๔๑ ฉะบับ พระราชหัตถเลขา ๑๗ ฉะบับ เลือกเอาบางฉะบับ และพระราชหัตถเลขารัชชกาลที่ ๗ ซึ่งผมจะขออนุญาตินำเสนอไปเป็นตอนๆ ดังนี้
ตอนที่ ๑ หน้าแรก
                                                                        อารัมภบท


                    พระราชชายา เจ้าดารารัศมี ศรีแห่งนครเชียงใหม่ ผู้ทรงเกียรติคุณและเกียรติยศอย่างอุโฆษ ปรากฏแก่ท่านทั้งหลายมานานแล้วนั้น ต่อไปนี้จะค่อยเลือนหายไปจากความทรงจำทีละน้อย ๆ ซึ่งตามธรรมดามักเป็นเช่นนั้นก็ดี แต่ถ้าได้พิมพ์พระประวัติของพระองค์ท่านไว้ ย่อมเป็นเครื่องฟื้นความจำได้ อีกประการหนึ่งผู้ ที่ไม่ทราบเรื่องของพระองค์ท่านละเอียดก็ยังมีอีกมาก จึงได้รวบรวมพระประวัติพิมพ์ เพื่อเทิดพระเกียรติคุณพระเกียรติยศของพระองค์ไว้ชั่วกาลนาน และเพื่อเป็นเครื่องปฏิการที่พระองค์ได้อุปการะแก่วงศ์ญาติ ซึ่งต่างก็ระลึกถึงและอาลัยอาวรณ์ไม่รู้หาย กับเพื่อเป็นสิ่งตอบแทนท่านที่เคารพและรักใคร่ในคราวงานพระเมรุ และขออุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระองค์ท่าน ผู้เป็นพระขนิษฐภคินีที่รักยิ่งของข้าพเจ้าด้วย.
                                                                                     เจ้าแก้วนวรัฐฯ 
                                                                          นครเชียงใหม่ เมษายน ๒๔๗๗
จบตอนที่ ๑ (ผิดตกยกเว้น)

การ์เรียนเชิญเปิดและชมนิทรรศการ

การ์เรียนเชิญเปิดและชมนิทรรศการ
นิทรรศการตั้งแต่ ๑๕ พย.ถึง ๑๕ ธค.นี้

In this photograph if you know please tell me where they are ?

In this photograph if you know please tell me where they are ?
ภาพถ่ายชุดนี้ คุณพ่อผมถ่ายไว้เป็นจำนวนมากเมื่อ ไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ประมาณ หกสิบ ถึงเจ็ดสิบปีมาแล้ว ท่านเสียชีวิตไปปี ๒๕๑๓ เอกสารบางอย่างถูกน้ำถ่วมและสูญหาย ทำให้ไม่ทราบถึงสถานที่ในภาพ ถ้าหากท่านทราบกรุณาบอกผมด้วยขอบคุณครับ

In this photograph if you know pleas tell me where they are ?

In this photograph if you know pleas tell me where they are ?
รูปแกะสลักนี้ตั้งอยู่ที่ไหนครับทราบโปรดบอกด้วยครับขอบคุณครับ

Please tell me where they are ?

Please tell me where they are ?
รูปเหล่านี้เป็นเทพฯของอียิปต์ยุกต์โบราณ

Please tell me where they are ?

Please tell me where they are ?
หน้าจะเป็นเทพฯ หรือ ราชินีองค์หนึ่งในอียิปต์โบราณ ถ้าสรวมหมวกรูปบัลลังก์ จะป็นเทพไอซิส

Please tell me were they are ?

Please tell me were they are ?

Please tell me where they are ?

Please tell me where they are ?

พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู้หัว

พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู้หัว
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระพุทธเจ้าหลวง พระปิยมหาราช เทิดพระเกียรติในวาระ ๑๐๐ ปี วันสวรรคต ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๓ (มีบทความด้านล่าง)

พระโกศทองใหญ่ทรงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระโกศทองใหญ่ทรงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบรมศพประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
๑๑๐ ปี แสงรวีศรีนครินทร์รุ่งโรจน์มิรู้ลืม ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายเบญจพล สิทธิประณีต.

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระโอรสธิดา

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระโอรสธิดา
สมเด็จย่าทรงกับพระโอรสธิดาครั้งทรงพระเยาว์

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐรามาธิบดินทร รัชการที่ ๘ สมเด็จย่า ฯ พระอนุชา

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐรามาธิบดินทร รัชการที่ ๘ สมเด็จย่า ฯ พระอนุชา
ในหลวงรัชการที่ ๘ สมเด็จย่า และพระอนุชา (ในหลวงรัชกาลที่ ๙)

ทรงงาน

ทรงงาน
พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชการที่ ๙ และ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงงาน

สมเด็จแม่ฯ

สมเด็จแม่ฯ
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙

สูจิบัตร นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ๑๐๙ ปี แสงรวีศรีนครินทร์รุ่งโรจน์ มิรู้ลืม

สูจิบัตร นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ๑๐๙ ปี แสงรวีศรีนครินทร์รุ่งโรจน์ มิรู้ลืม
นิทรรศการ ๑๐๙ ปี แสงรวีศรีนครินทร์รุ่งโรจน์ มิรู้ลืม ณ.ศูนย์ศิลป์ศรีพิพัฒน์(แพ บุนนาค) งานเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๐๙ ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๒ (มีรูปงานนิทรรศการด้านล่าง)

My collection-ภาพเก่าเล่าอดีต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

My collection-ภาพเก่าเล่าอดีต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เสด็จพระราชดำเนินวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่(พ.ศ.2501)

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตบรมราชินีนาท(พ.ศ.2501)

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตบรมราชินีนาท(พ.ศ.2501)
เสด็จพระราชดำเนินวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาท(พ.ศ.2501)

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาท(พ.ศ.2501)
ทั้งสองพระองค์บริเวณบันไดนาควัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่

พระบัวเข็ม

พระบัวเข็ม
พระบัวเข็ม ที่บ้านจะมีจานเชิงใส่นำรองอยู่ด้านล่างองค์พระซึ่งทำจากไม้ลงรักปิดทอง

The way of life in U.S.A.

The way of life in U.S.A.
Tn the town by Vimol Siddhipraneet.

The way of life in u.s.a.

The way of life in u.s.a.
In the town.

The way of life in U.S.A.

The way of life in U.S.A.
In the town.

The way of life in U.S.A.

The way of life in U.S.A.
In the town.

The way of life in U.S.A.

The way of life in U.S.A.
In the town.

The way of life in U.S.A.

The way of life in U.S.A.
In the town.

The way of life in U.S.A.

The way of life in U.S.A.
In the town.

The way of life in U.S.A

The way of life in U.S.A
In the town.

ภาพถ่ายในสหรัฐอเมริกา

ภาพถ่ายในสหรัฐอเมริกา
ถ่ายโดย คุณพ่อวิมล สิทธิประณีต.เมื่อครั้งไปสหรัฐอเมริกา

ภาพถ่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา

ภาพถ่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา
คุณพ่อวิมล สิทธิประณีต.ถ่าย เมื่อทำงานสำนักข่าวสารอเมริกัน

ภาพถ่ายที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

ภาพถ่ายที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
คุณพ่อวิมล สิทธิประณีต.ถ่าย ล้าง และอัดเอง ท่านมีห้องมืดที่บ้าน.