วันนี้ผมนำเสนอพระประวัติพระราชชายา เจ้าดารารัศมี แห่งนครเชียงใหม่ต่อเลยน่ะครับจาก ในหนังสือพระประวัติที่ เจ้าแก้วนวรัฐ ฯ เรียบเรียง
ตอนที่ ๑๐ หน้าที่ ๑๕ ถึงหน้าที่ ๑๙
เครื่องราชอิสสริยาภรณ์
เครื่องราชอิสสริยาภรณ์ที่พระองค์ได้รับพระราชทาน ดังนี้
๑. ปฐมจุลจอมเกล้า ฯ พร้อมด้วยดาราจุลจอมเกล้า ฯ
๒. มหาวชิรามงกุฎ
๓. ปถมาภรณ์มงกุฎสยาม
๔. เหรียญรัตนาภรณ์ จ.ป.ร. ลงยากรอบประดับเพ็ชร์ รัชกาลที่ ๕
๕. เหรียญรัตนาภรณ์ ว.ป.ร. ลงยากรอบประดับเพ็ชร์ รัชกาลที่ ๖
๖. เหรียญรัตนาภรณ์ ป.ป.ร. ลงยากรอบประะดับเพ็ชร์ รัชกาลปัจจุบัน
๗. เข็มพระปรมาภิธัยรัชกาลที่ ๖ ประดับเพ็ชร์ล้วน
ประชวร
วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๖ ซึ่งขณะนั้นประทับอยู่ที่ตำหนัก สวนเจ้าสบาย อำเภอแม่ริม ได้เริ่มประชวรพระปับผาสะพิการ กระเสาะกระแสะเรื่อยมา นายแพทย์ในเชียงใหม่ได้ช่วยกันพยาบาลพระอาการก็ไม่ทุเลา เจ้าแก้วนวรัฐ ฯ จึงเชิญเสด็จมาประทับที่คุ้มรินแก้ว อำเภอเมืองเชียงใหม่เพื่อแปรพระราชฐาน ทั้งให้สะดวกรักษาพยาบาล กับเพื่อสะดวกแก่ประยูรญาติที่จะเฝ้าเยี่ยมประชวรด้วย นายแพทย์ทั้งไทยและต่างประเทศในเชียงใหม่เป็นหลายนายกับหลวงสุริยพงศ์ ฯ แพทย์กรมรถไฟได้ร่วมกันรักษาพยาบาลอย่างสุดฝีมือ พระอาการก็ไม่ดีขึ้น เจ้าแก้วนวรัฐ ฯ จึงได้สั่งซื้อเครื่องเอ็กซเรย์ชะนิดย้ายได้จากชะวา ส่งมาทางเครื่องบินรวมสิ้นเงิน ๔,๒๐๐ บาทเศษ มาฉายดูพระปับผาสะ เพื่อเป็นการช่วยแพทย์ตามแผนปัจจุบัน แม้กระนั้นพระอาการก็มีทรงกับทรุด.
สิ้นพระชนม์
ครั้นมาเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๖ เวลา ๑๕ นาฬิกา ๑๔ นาที ณ ที่คุ้มรินแก้ว ในท่ามกลางพระประยูรญาติ มีเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่เป็นประทาน ฝ่ายข้าราชการมีพระยากัลยาณวัฒนวิศิฏ์เป็นต้น พร้อมด้วยแพทย์ทั้งไทยและต่างประเทศอันห้อมล้อมอยู่ด้วยความเอาใจใส่ในพระอาการโดยหวังจะให้พระองค์ทรงบรรเทาทุกขเวทนานั้น พระองค์ก็ถึงซึ่งวาระสุดท้ายสิ้นพระชนม์ชีพดับขันธ์ลงทันที ทิ้งความวิปปโยคโศกศัลย์อันสุดซึ้งไว้แก่ผู้ที่เคารพรักใคร่ทั้งหลาย รวมเวลาประชวร ๕ เดือน ๙วัน ศิริพระชนมายุได้ ๖๐ พรรษา ๓ เดือน ๑๓ วัน ประทับอยู่ในนครเชียงใหม่ครั้งสุดท้ายรวม ๑๘ ปี ๑๑ เดือนเศษ เมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี ทรงมีพระราชโทรเลขมาแสดงความเศร้าสลดพระราชหฤทัย ตลอดถึงพระบรมวงศานุวงศ์ เจ้าจอม หม่อมห้าม และข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย พ่อค้าคฤหบดี ชาวต่างประเทศ ได้ มีพระโทรเลข และโทรเลข ลายพระหัตถ์หนังสือมาแสดงความสลดพระทัย และสียใจหลายสิบฉะบับ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรุมขุนอู่ทองเขตต์ขัติยนารี ประทานเงินช่วยทำบุญ ๓,๐๐๐ บาทด้วย
ส่วนบรรดาเจ้านายประยูรญาติ ข้าราชการในเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตลอดจนถึงเชียงราย ชาวต่างประเทศ พ่อค้าคฤหบดี กรรมการและสมาชิกของสมาคม คือสโมสรนวรัฐ สโมสรพาณิชย์สามัคคี สโมสรพาณิชย์จีนเชียงใหม่ สโมสรลูกค้าจีน โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัฒโนทัยพายัพ ดาราวิทยาลัย ปรินส์รอยแยลส์ ฯ มงฟอร์ตวิทยาลัย เรยีนาวิทยาลัย โรงเรียนฮั่วเอง โรงเรียนชั่วย่งเสง โรงเรียนประจำจังหวัด โรงเรียนซินหมิน ภิกษุสามเณร ทายกทายิกา วัดเชตุพน กับบุคคลอื่น ๆ อีกมาก ได้นำพวงมาลัยมาเป็นเครื่องสักการะพระศพ เลยทำบุญด้วยก็มี ส่วนผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดเช่นกรุงเทพ ฯ ที่มาไม่ได้ ก็ส่งพวงมาลามาเคารพพระศพ ที่ส่งเงิน ส่งของ มาทำบุญก็มี กรรมการสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยมีหนังสือแสดงความจำนงว่าจะแต่งผู้แทนมาในงานพระเมรุ ฝ่ายประยูรญาติก็ผลัดเปลี่ยนกันมาบำเพ็ญกุศลที่พระศพไม่ขาด.
พระเกียรติคุณ
เนื่องแต่พระองค์มีความจงรักษ์ภักดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเจ้านายในราชจักรีวงศ์ ซึ่งได้ทรงพระมหากรุณาชุบเกล้า ฯ มาแต่บรรพบุรุษ และมีพระจริยาวัตต์อัธยาศัยโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่างโอภาปราไส ใครจะเอ่ยเรื่องอะไรก็ต่อได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้านายในราชจักรีวงศ์ จึงทรงพระเมตตาปราณี ฝ่านประยูรญาติตลอดถึงข้าราชการ พ่อค้าคฤหบดี ประชาชนพลเมือง และชาวต่างประเทศ จึงเป็นที่นิยมและไปมาเฝ้าแหนเคารพยำเกรงทั่วไป เมื่อประชวร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเงินส่วนพระองค์ ๕,๐๐๐ บาทช่วยในการรักษาพยาบาล กับโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าพี่ยาเธอกรมพระกำแพงเพ็ชร์อัครโยธิน เชิญด้ายสายสิญจน์มา ผูกพระกร (ตามประเพณีทางเหนือ) ด้วย และโปรดเกล้าให้ถวายรายงานของแพทย์ประจำวัน ส่วนเจ้านายพระองค์อื่น และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ก็ได้ มีพระโทรเลขลายพระหัตถ์ และหนังสือถามพระอาการและปวารณารับจะทรงช่วย และช่วยอยู่เสมอ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการก็ให้หลวงสุริยพงศ์ ฯ ขึ้นมาช่วยประจำรักษาร่วมมือกับแพทย์ที่เชียงใหม่ตลอดจนสิ้นพระชนม์
พระศพ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระยาโกษาเป็นหัวหน้าพนักงานกองสนมพลเรือน ๘ กองภูษามาลา ๖ กองพระราชกุศล ๒ แผนกอภิรมย์ราชยาน ๑ กรมวังนอก ๒ แผนกกระบวน ๕ รวม ๒๕ นาย นำน้ำพระสุคนธ์สรงพระศพ กับพระโกศกุดั่น เครื่องสูง ๑๐ สังข์ ๑ แตรฝรั่ง ๑ แตรงอน ๑ กลองชนะ ๒๐ เสลี่ยงแว่นฟ้า พระกลด พระราชทานมาเป็นพระเกียรติยศ และโปรดเกล้า ฯ ให้ไว้ทุกข์ถวาย ๗ วัน
พระราชทานผ้าไตรของหลวง ๒๐ ไตร ของสมเด็จพระบรมราชินี ๒๐ ไตร พระสงฆ์ ๒๐ รูปสดับปกรณ์ พระราชาคณะแสดงพระธรรมเทศนา ๑ รูป พระถานานุกรม ๔ รูปสวดธรรมคาถาทั้งกลางคืนกลางวัน ฉันเช้าวันละ ๘ ฉันเพลวันละ ๔ รูป กำหนด ๑๕ วัน เหล่านี้เป็นของส่วนพระองค์พระราชทานทั้งสิ้น ในการพระเมรุก็โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าหน้าที่กระทรวงวังขึ้นมาจัดทำเป็นส่วนของพระองค์พระราชทานเหมือนกัน.
ทั้งหมดเป็นพระประวัติที่ได้ทรงตลอดพระชนม์ชีพ ซึ่งแสดงถึงพระหฤทัยที่เข็มแข็งตั้งแต่ทรงจากนครเชียงใหม่ไป ยังพระบรมมหาราชวังแต่ทรงพระเยาว์ ได้ทรงรักษาขนบธรรมเนียมและการแต่งพระองค์อย่างล้านนามาโดยตลอด ซึ่งแสดงถึงพระหทัยที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ในการรักษาซึ่งสิ่งที่ดีงามของแผ่นดินล้านนา ทรงศึกษาวิชาช่างฝีมือทั้งของในราชสำนักและในคุ้มหลวงโดยมิได้ลืมพระองค์ตามระยะเวลาอันยาวนานที่ทรงอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ทรงเป็นแบบอย่างของราชวงค์ล้านนาที่มีขนบธรรมเนียมที่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และทรงส่งเสริมภูมิปัญญาของล้านนาให้มีคงอยู่โดยสายพระเนตรอันยาวไกล เมื่อทรงเสด็จกลับมายังนครเชียงใหม่ ทรงเสด็จเยี่ยมเยียนประชาชน ดูแลทุกข์สุข ส่งเสริมอาชีพ ในทุกด้าน ทรงมีคุณูปการกับแผ่นดินล้านนาอย่างใหญ่หลวง ทรงเป็นขัติยนารีแห่งแผ่นดินล้านนา ที่เหล่าอาณาประชาราฏษ์จะไม่ลืมพระองค์ไปตลอดกาลนาน.
ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553
พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)