ในพระราชหัตถเลขาฉบับนี้ข้อนข้างจะสมบูรณ์ในเรื่องราวในพระบรมมหาราชวังในสมัยนั้นที่เราท่านไม่ค่อยจะได้ทราบกันตั้งแต่เรื่องชีวิตความเป็นอยู่การแต่งกายหรือแฟชั่น กระทั่งถึงการมหรสพที่ในขณะนั้นเป็นดูการละคร และทำให้เราทราบว่าพระราชชายา ฯ ทรงสนพระทัยในละคร ซึ่งในเรื่องการดนตรี การฟ้อนรำ ตำหนักพระราชชายาเป็นที่เลื่องลือในด้านนี้อย่างที่ทราบกันแต่เมื่อได้อ่านพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหลายฉบับที่ผ่านมาและในแบบนี้ จะเห็นได้ว่าพระราชชายา ฯ ทรงมีส่วนในการเขียนบทละคร อีกด้วย ครับ ต่อนี้ผมจะนำพระราชหัตถเลขา ในหนังสือพิมพ์ในงานถวายพระเพลิง พระราชชายา ฯ มาเสนอต่อไปครับ
ตอนที่ ๓ หน้าที่ ๔๑ ถึงหน้า ๔๓
การที่เล่นละครแล้วไม่ได้เขียนเล่าเรื่องมา เหตุด้วยกำลัง
ปวดเหลือเกิน บทที่เตรียมไว้จะส่งก็เลยค้างไปไม่ได้ส่งด้วย บัดนี้
ได้ส่งขึ้นมา ๙ เล่ม แต่จะซ้ำไปเล่มหนึ่งฤาอย่างไรไม่ทราบ จำไม่แน่
จึงเห็นว่าเหลือไว้ดีกว่าขาด
การที่ตั้งพยายามไปซ้อมละครเล่นพระลอแก้ขัด ใจคอก็เด็ด
นักหนา คนที่จะเล่นละครมันต้องเป็นคนคิดได้ทั้งบทและทั้งคุมเรื่อง
ให้ท่า จำจะต้องคิดเรื่องคิดใหม่ประกอบกับตัวคนที่มีอยู่ จึงจะเล่น
ได้ดี เพราะฉะนั้นคนที่เล่นละครดีมาแต่ก่อน ๆ พระพุทธเลิศหล้า ตา
เจ้ากลับ นายเนตร นายต่าย เจ้าพระยามหินทร เหล่านี้เขานึก
ของเขาเองทั้งนั้น ถ้าเล่นละครมีผู้มาคอยติว่าที่นี่ต้องอย่างนั้น ที่นั่น
ต้องอย่างนี้จึงจะถูกแล้วเล่นอย่างไร ๆ ก็สู้เมื่อกระนั้น คือ คนที่เล่น
แรกไม่ได้
พูดถึงกรมนรา ฯ มามากแล้ว คราวนี้เอาเรื่องอินเสียที มียาย
ฝรั่งคนหนึ่งเป็นชาวอิตาเลียน ชื่อบัวซอนี คิดตั้งโรงละครที่ถนน
พาหุรัต ลงพิมพ์ประกาศมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ว่าจะเล่นละคร
เรื่องอิตาเลียนแปลเป็นไทย คนไทยเล่นแต่งตัวเป็นฝรั่ง จะได้เล่นใน
เดือนเมษายนเป็นแน่ คำประกาศนั้นาลงพิมพ์ทุกวันจนถึงเดือนมีนาคม
เมษายน พฤษภาคม จนถึงเดือนพฤษภาคมแล้วก็ยังลงพิมพ์ว่าจะ
ได้เล่นเดือนเมษายนเป็นแน่ มันช้าเช่นนี้ ได้มาเล่นต่อเดือนมิถุนายน
เชิญเสด็จด้วย แต่ไม่เสด็จ ครั้งแรกคนตื่นเต้นกันไปดูมาก โรง
ละครว่าทำดีกว่าโรงไหน ๆ ในบางกอกทั้งหมด ตัวละครแต่งตัว
เป็นฝรั่งอย่างดี ฝรั่งโบราณชั้น ๑๕๐ ปีมาแล้ว เสื้อแสงหรูมาก
เรื่องที่เล่นก็ออกจะสนุก ๆ แต่ตัวละครนั้นเก็บเอาพวกละครปรีดาลัย
บ้าง นักสวดบ้าง ยี่เกบ้าง ผู้ชายเปนผู้ชาย ผู้หญิงเป็นผู้หญิง
แต่มันเล่นพูดเป็นฝรั่งพูดไทย อีโย่งโก้งเก้ง เห็นจะมีคนดูเต็มแต่
ครั้งแรกวันเดียว แล้วเล่นต่อมาอีกสัก ๒-๓ วัน กลายเป็นเล่นแต่
วันเสาร์วันอาทิตย์ วันอื่น ๆ เอาหนังเข้าไปเล่น เมื่อวิกก่อนนี้หนังสือ
พิมพ์กล่าวว่าต้องเลิกเพราะไม่มีคนดู มันกล้าเล่นมีเงิน ๓,๐๐๐ บาท
เท่านั้น เที่ยวซื้อของเชื่อ กว้านของซื้อให้หมดตลาดแล้วกลับขาย
กรมนรา ฯ ครางอู้หาซื้อช้องไม่ได้ เดี๋ยวนี้เจ้าหนี้ตอมนุงทีเดียว
ครับจากในพระราชหัตเลขา ตอนนี้ สมเด็จพระปิยะมหาราชทรงมีพระราชปรีชาและเข้าใจในความเป็นผู้เล่นละคร และจะเห็นว่าผู้ชมละครสมัยนั้นยังคงนิยมในละครมีเอกลักษณ์ของสยามอยู่ ยังไม่นิยมที่เป็นแบบฝรั่งมาก ทำให้ชาวต่างชาติที่มาลงทุนไม่สามารถอยู่ได้ ครับยังคงมีอีกตอนสำหรับพระราชหัตถเลขาฉับบนี้ซึ่งจะอัญเชิญมาเล่าให้อีกครับ.
ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)