ที่บ้านคุณตา คุณยาย เป็นบ้านเก๊า(บ้านต้นตระกูล) จึงเป็นที่รวบรวมหนังสือ สิ่งของต่างๆไว้มากมายซึ่งเมื่อมีการรื้อบ้านหลังนี้ทำให้ข้าวของที่สะสมมารุ่นตารุ่นชวดถูกทิ้งและกระจายไปตามบ้านของลูกหลาน ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เพิ่งมารู้ตัวเองว่าเป็นคนผิดที่ไม่รู้คุณค่าของที่บรรพบุรุษเก็บสะสมไว้ ซึ่งกว่าจะรู้ก็เกือบสายไปยังคงเหลืออยู่บ้าง ที่ว่าผมเป็นคนผิดก็คือเมื่อตอนจะรื้อบ้านเก๊าที่ริมแม่น้ำปิง ประมาณปี พ.ศ.๒๕๒๐ นั้นไม่มีใครช่วยเก็บและขนของมีแต่ผมคนเดียวและที่เก็บของก็ไม่มี ด้วยความมักง่ายและความเหนื่อยของผม ผมจะก็นำของบางส่วนที่ตนเองไม่เห็นคุณค่า เช่นสมุด หนังสือ แผ่นป้ายโฆษณา ล๊อตตารี่เก่าๆ สิ่งของเครื่องใช้ ทิ้งลงในแม่น้ำปิงในตอนกลางคืน เกือบทุกวันเมื่อมาคิดดูในขณะนี้แทบอยากกระโดดลงแม่นำปิงยามหน้าฝนนี้ที่ไม่ร้จักรักษาของเก่า แต่ก็มีบางส่วนที่ยังคงเหลืออยู่ ซึ่งผมเก็บใส่กล่องแล้วเอาไปไว้ที่ตู้ใต้ถุนบ้านอีกหลังในบริเวณเดียวกัน และเมื่อผมเห็นคุณค่าผมมาเปิดกล่องเมื่อยี่สิบปีให้หลัง จึงได้รู้ว่าทำไมปู่ ย่า ตา ชวด จึงเก็บของเหล่านี้ไว้ ทุกอย่างเป็นประวัติศาสตร์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของเชียงใหม่ในอดีต อย่างที่หาไม่ได้จากการอ่านในหนังสือ จึงเป็นเหตุให้ผมนำเรื่องที่เหลือเหล่านั้นมาแบ่งปัน ให้ผู้สนใจได้รับรู้ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะมาอวดอ้างถึงความเป็นตระกูลเก่าแก่ และมีชาติตระกูล อันยาวนาน แต่ผมต้องการให้เรื่องราวในอดีตที่ คนในตระกุลได้สัมผัส ในช่วงเวลาที่ฝ่านมาเป็นส่วนประกอบในการศึกษา วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ สถานที่อยู่อาศัย กับผู้ที่สนใจ ในช่วงระยะ ๑๕๐ ถึง ๒๐๐ ปีที่ผ่านมาของแผ่นดินล้านนา ของทุกชิ้นคงเหลือรอดจากการทิ้งไปนั้นมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ เมื่อผมเปิดกล่องและพบ เป็นหนังสือเล่มสำคัญที่ หน้าจะถ่ายทอดให้ผู้สนใจได้ ทราบ หนังสือเล่มนั้น เป็นหนังสีอปกอ่อน ขนาดเล็กกว่า เอสี่เล็กน้อย มีทั้งหมด ๕๕ หน้า ด้วยความเก่าคาดว่าหน้าจะเป็นกระดาษสีขาวเพราะปัจจุบันกระดาษเป็นสีน้ำตาลอ่อนหมดแล้ว บนหน้าปกเขียนไว้ว่า พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี เจ้าแก้วนวรัฐฯ ผู้ครองนครเชียงใหม่ เรียบเรียง พิมพ์ในงานถวายพระเพลิง ปีจอ
พ.ศ.๒๔๗๗ พิมพ์ที่โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ ถนนบำรุงเมือง ในพระนคร เมื่อเปิดไปหน้าแรกมี อารัมภบท หน้าต่อมาเป็นกระดาษบางรอง พระรูปพระราชชายา เจ้าดารารัศมี เมื่อพระชนม์มากแล้ว จากนั้นหน้าถัดไปเป็นพระประวัติโดยละเอียดถึงแปดหน้า แล้วเป็นกระดาษบางรองรูปที่ประดิษฐานพระศพ จากนั้นเป็น พระราชโทรเลขและพระราชหัตถเลขา รัชชกาลที่ ๕ ที่โปรดเกล้าฯ พระราชชายาฯ เมื่อเสด็จเชียงใหม่
พ.ศ. ๒๔๕๑ ( ร.ศ. ๑๒๗-๑๒๘ ) ค้นพบพระราชโทรเลข ๔๑ ฉะบับ พระราชหัตถเลขา ๑๗ ฉะบับ เลือกเอาบางฉะบับ และพระราชหัตถเลขารัชชกาลที่ ๗ ซึ่งผมจะขออนุญาตินำเสนอไปเป็นตอนๆ ดังนี้
ตอนที่ ๑ หน้าแรก
อารัมภบท
พระราชชายา เจ้าดารารัศมี ศรีแห่งนครเชียงใหม่ ผู้ทรงเกียรติคุณและเกียรติยศอย่างอุโฆษ ปรากฏแก่ท่านทั้งหลายมานานแล้วนั้น ต่อไปนี้จะค่อยเลือนหายไปจากความทรงจำทีละน้อย ๆ ซึ่งตามธรรมดามักเป็นเช่นนั้นก็ดี แต่ถ้าได้พิมพ์พระประวัติของพระองค์ท่านไว้ ย่อมเป็นเครื่องฟื้นความจำได้ อีกประการหนึ่งผู้ ที่ไม่ทราบเรื่องของพระองค์ท่านละเอียดก็ยังมีอีกมาก จึงได้รวบรวมพระประวัติพิมพ์ เพื่อเทิดพระเกียรติคุณพระเกียรติยศของพระองค์ไว้ชั่วกาลนาน และเพื่อเป็นเครื่องปฏิการที่พระองค์ได้อุปการะแก่วงศ์ญาติ ซึ่งต่างก็ระลึกถึงและอาลัยอาวรณ์ไม่รู้หาย กับเพื่อเป็นสิ่งตอบแทนท่านที่เคารพและรักใคร่ในคราวงานพระเมรุ และขออุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระองค์ท่าน ผู้เป็นพระขนิษฐภคินีที่รักยิ่งของข้าพเจ้าด้วย.
เจ้าแก้วนวรัฐฯ
นครเชียงใหม่ เมษายน ๒๔๗๗
จบตอนที่ ๑ (ผิดตกยกเว้น)
ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553
พระประวัติ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น