ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วันปิยมหาราช
เบญมาศเร็วรับแต่งตัวให้ลูกหมีและน้องจิ๋มเร็วๆเดี๋ยวจะไปไม่ทัน เสียงแม่เร่งให้พี่เลี้ยงช่วยแต่งตัวให้ผมกับน้อง ด้านนอกได้ยินเสียงกลองของวงค์ดุริยางค์ดังมาแต่ไกล นั้นเป็นเสียงที่ทำให้ผมตื่นเต้นอยากออกบ้านในตอนเช้าๆเป็นที่สุด คุณแม่จะจูงผมส่วนคุณพ่อจะอุ้มน้องจุ๋มจิ๋ม เราเดินไปตามถนนพระปกเกล้ามุ่งหน้าไปทางศาลากลาง(หลังเดิม) ผู้คนต่างอุ้มลูกจูงหลานมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน เราเดินไปจนถึงหน้าโรงเรียนยุพราช ซึ่งอดีตเคยเป็นคุ้มหลวงกลางเวียงของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ผู้คนมากมายยืนรอที่ถนนหน้าโรงเรียนยุพราช เสียงวงค์ดุริยางค์ของโรงเรียนต่างๆ พร้อมทั้งขบวนพาเหรดที่แต่งกายเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละโรงเรียนเริ่มทะยอยแห่ผ่านสายตา พร้อมทั้งอัญเชิญพวงมาลาที่ตกแต่งอย่างสวยงามใหญ่โต ผ่านเลี้ยวเข้าไปในสนามฟุตบอลโรงเรียนยุพราชที่ล่ะโรงเรียน วงค์ดุริยางที่สวยงามและแปลกเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียนบูรณศักดิ์ ที่ทุกคนสนใจมาก ดรัมเยอร์และผู้เล่นดนตรีใส่กระโปรงลายสก็อต สรวมรองเท้าถุงเท้ามี ภู่ห้อย ใส่ผ้าพาดเฉียงไหล่และทุกคนเป่าปี่สก็อตที่เสียงแปลกไพเราะ นักเรียนที่เดินตามอย่างแข็งขัน ตามด้วยวงค์ดุริยางค์ในชุดกางเกงขายาวสีน้ำเงินมีแถบขาวด้านข้างและเสื้อนอกสีน้ำเงินมีภู่สีขาวหมวกทรงสูงสีน้ำเงินดูเท๋ห์มาก บรรเลงเพลงมาร์ชอย่างไพเราะ มีนักเรียนใส่กางเกงสีนำเงินเสื้อขาวอัญเชิญพวงมาลาตามมาอีกจำนวนนับร้อยคน เป็นวงดุริยางค์ของโรงเรียนปรินส์รอยแยลวิทยาลัยแน่นอน ตามมาด้วยวงค์ดุริยางที่กางเกงดำมีแถบและเสื้อนอกสีแดงสด สง่างามบรรเลงเพลงมาร์ชมาตามด้วยนักเรียนอีกจำนวนมากเดินเป็นระเบียบคือโรงเรียนมงค์ฟอร์ตวิทยาลัย ตามมาด้วยโรงเรียนยุพราชวงดุริยางสวมเสื้อนอกสีบานเย็น กางเกงดำ แถวนักเรียนอีกมากมาย และก็มีของโรงเรียนอื่นๆ เช่นโรงเรียนดาราวิทยาลัย โรงเรียนเรยีนาเชรีย์วิทยาลัย โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ และหน่วยราชการต่างๆ สลับกับโรงเรียนต่างๆ เรายืนดูตั้งแต่หกโมงเช้าถึงแปดโมงขบวนถึงเข้าไปในสนามโรงเรียนยุพราชจนหมด คุณแม่ และคุณพ่อจะพาเราเข้าไปดูพิธีวางพวงมาลาเมื่อเสร็จพิธี ก็จะได้เห็นวงดุริยางค์เดินออกจากประตูไปอย่างเป็นระเบียบสวย สง่างาม ซึ่งปีหนี่งจะเพียงครั้งเดียวที่จะได้เห็นวงดุริยางค์ออกมาพร้อมเพียงกันในวันปิยมหาราชนี้เอง ทำให้ผมไฝ่ฝันที่จะได้เข้าร่วมในวงดุริยางค์ให้ได้ด้วยความสง่างามนี้เอง หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่จะพาลูกๆค่อยๆเดินดูพวงมาลาที่แต่ละอัน ที่สถานศีกษาหน่วยงานนำมาถวายเป็นเครื่องราชสักการะ ซึ่งแต่ละอันมีความสวยงาม ใหญ่โต นำศิลปะมาตกแต่งอย่างเต็มที่ บางแห่งทำจากผ้ากำมะหยี่ การประดับกระจก หรือใช้เมล็ดพันธ์พืชมาประดับ เป็นพระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มและเป็นประโยชน์ต่อปวงชนชาวไทย เช่นการเลิกทาส การรถไฟ และอื่นๆอีกมากมาย ประชาชนที่เข้ามาชมพวงมาลาต่างก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ คุณพ่อและคุณแม่จะช่วยอธิบายให้ลูกๆฟังถึงความหมายของพวงมาลาแต่ละอัน อันนี้น่ะลูกเขาทำเป็นรูปโซ่คล้องกัน แต่ช่วงที่ขาดหายไปนี้เป็นการแสดงว่า พระปิยมหาราชทรงเลิกทาสน่ะลูก อันนั้นทำเป็นรูปรถไฟ และดอกกุหลาบ พระองค์ทรงโปรดดอกกุหลาบและทรงริเริ่มการรถไฟขึ้นเป็นครั้งแรกน่ะลูกคุณพ่อช่วยเสริม ส่วนอันนั้นเป็นพื้นสีดำทั้งผืนแล้วมีกระจกตัดเป็นวงกลมพอแสงพระอาทิตย์สะท้อนก็ดูเหมือนดวงอาทิตย์ก็มีความหมายว่าพระองค์ทรงเป็นเหมือนแสงอาทิตย์ที่ส่องสว่างขจัดความมืดคือการนำความเจริญทัดเทียมอารยประเทศมาสู้ประเทศของเรา ดูอันนั้นซิครับเป็นรูปคนขี่ม้าลูกเคยไปกรุงเทพฯกับพ่อลูกจำได้ไหมที่พ่อชี้ให้ลุกยกมือไหว้กลางถนนที่กว้างเป็นอนุเสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้าของรัชการที่ ๕ ที่เขาเอาแบบมาทำไว้บนพวงมาลานั้นไงครับคุณพ่อบอก เราเดินดูจนหมดแล้วคุณพ่อคุณแม่ ก็พาออกมาทีริมสนามมีรถขายโรตีสายไหมที่ปั่นมือ คุณแม่ก็ซื้อให้กินซึ่งเป็นเส้นอ่อนนุ่มสีครีมพันมาบนไม้ คนล่ะอัน จากนั้นเราก็พากันกลับบ้านด้วยความตื้นตันและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการลที่ ๕ ซึ่งเราถวายพระนามว่าพระปิยมหาราช พระผู้อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยมิรู้คลาย แต่...........ปัจจุบันนี้วันเวลาที่เปลี่ยนไปความรักยังไม่รู้คลายแต่ด้วยการเปลี่ยนระบบการศึกษาทำให้ช่วงเวลาวันปิยมหาราชเป็นช่วงปิดเทอมทำให้ความคึกคักของงานจืดจางไป แต่ความจงรักภักดียังไม่เสื่อมคลาย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น