เรื่องของตู้ ในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งมีอยู่หลายใบด้วยกันครับ ที่มีมาแต่ครั้งบ้านหลังเดิมที่เป็นไม้ซึ่งมีอยู่สองหลัง หลังใหญ่ เป็นบ้านไม้สองชั้นหันหน้าบ้านไปทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นถนนเจริญเมือง ส่วนอีกหลังจะหันไปทางแม่น้ำปิงเป็นลักษณะ "เฮือนแป" คือบ้านไม้ที่เปิดหน้าร้านด้วยประตูบานพับได้ตลอดซึ่งเปิดเป็นร้านค้าขายถ้ามองจากด้านหน้าจะมีชั้นเดียวยาวสามห้อง แต่ด้านในแบ่งเป็นสองชั้นโดยแบ่งครึ่งเรือนตามขวางด้านหน้าเป็นที่ค้าขายด้านหลังเป็นที่อยู่อาศัยและมีบันใดขึ้นชั้นบน และจะมีชานต่อออกไปติดต่อกับด้านข้างของบ้านหลังใหญ่ ส่วนตู้จะมาจากบ้าน "เฮือนแป" คือตู้ใบใหญ่ที่ตั้งอยุ่ด้านขวามือเมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ เป็นตู้ขนาดสามชั้น ซึ่งเป็นสมบัติของ คุณชวดบัวเขียว เลาวพงศ์ ชวดบัวเขียว นั้นท่านเป็นนางสาวไม่ได้แต่งงานและได้นำเอาคุณตาซุ่นเฮง เลาวพงศ์ ซึ่งเป็นลูกของคุณชวดฮัวฮง เลาวพงศ์ ซึ่งเป็นน้องมาเลี้ยงเป็นลูก ตู้ใบนี้ที่จริง มีสองใบที่เหมือนกัน สมัยคุณชวดจะใช้สำหรับใส่เสื้อผ้า และ ของมีค่าต่าง ๆ เมื่อตอนแบ่งมรดก ตู้คู่นี้ก็ถูกแยกจากกัน โดยใบแรก พี่ชายคุณแม่อาภรณ์ ได้ไป ส่วนใบที่เหลือ เป็นของคุณแม่ จากลักษณะของตู้ เป็นช่างชาวจีนเป็นผู้ทำ และขนาดจะพอดีกับห้องที่ใน "เฮือนแป" กระจกยังคงเป็นกระจกเดิมที่เนื้อกระจกใสจะไม่เรียบและมีฟองอากาศในเนี้อกระจกบางแผ่น มีบัวด้านบนต่อลงมาจะมีคิ้วสองเส้นระหว่างคิ้วจะมีลูกมะเฟือง ลุกเล็ก ๆ ติดเป็นระยะตลอดแนวระหว่างคิ้ว ด้านหน้าเป็นบานกระจกพับด้านล่ะสองบาน มีเสาเซาะร่อง หน้าตู้ทั้งด้านริม ทั้งสอนด้านและที่กลางตู้ที่บานประตูตู้จะมาบรรจบกัน ตู้ใบนี้มีขนาดใหญ่ยาวประมาณสามเมตร สู่งประมาณ สองเมตร
เป็นไม้สัก และเดิมลงน้ำมันสีโอกด้านแต่มาเปลี่ยนเป็นสีโอกมันตอนที่ย้ายมายังตึกบ้านอาภรณ์หลังปัจจุบัน ซึ่งหลังเดิมที่เป็นไม่นั้นได้รื้อออกเมื่อปี พศ. ๒๕๑๘ แล้วสร้างเป็นตึกหลังที่ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบันแล้วเสร็จเมื่อปี พศ.๒๕๒๐ ส่วนบ้าน "เฮือนแป" รื้อเนื่องจากชำรุดทรุดโทรมอย่ามาก และสร้างเป็นเรือนทรงปั้นหยาอย่างที่เห็นปัจจุบัน ตู้บางใบจึงถูกขนย้ายมาที่บ้านตึก หลังนี้ และบางใบก็แบ่งให้ญาติพี่น้องของคุณแม่อาภรณ์ไป ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ไม่กี่ใบ ส่วนที่เห็นอยู่ในพิพิธภัณฑ์ปัจจุบันนั้นด้วยความจำเป็นที่ต้องหาตู้ใส่ของจึงจัดซื้อมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นตู้เก่าทั้งหมดทุกใบ
ตู้อีกใบที่ตั้งอยู่ชั้นที่สองของพิพิธภัณฑ์ คือตู้ยุกต์หลัง คือตู้ใส่เสื้อผ้าเช่นกันเป็นสมบัติของคุณย่าบัวแก้ว สิทธิประณีต เป็นคุณแม่ของคุณพ่อวิมล สิทธิประณีต ตู้ใบนี้จัดซื้อเมื่อครั้งคุณปู่จันทร์ สิทธประณีต ได้สร้างตึกที่อยู่อาศัย ที่ตรงกันข้ามวัดหมื่นตูม ประตูเชียงใหม่ ซึ่งเป็นตู้รุ่นกลาง ประมาณปี ๒๔๙๕ ลงมา ซึ่งเป็นตู้ที่ลักษณะเรียบง่าย มีสี่ชั้นมีกระจกสามด้านของสองชั้นบน เป็นตู้ที่คุณย่าใช้ใส่เสื้อผ้าของท่านอีกเช่นกัน และเมื่อคุณย่าเสียชีวิตได้นำตู้นี้มาไว้ที่บ้านตึกเชิงสะพานนวรัฐ โดยใส่เสื้อผ้าบางส่วนของคุณย่าและคุณปู่ไว้จากภาพถ่ายจะเห็นว่าส่วนฐานของตู้หายไปและมีรอยคราบน้ำสูงขึ้นมาประมาณ ครึ่งเมตร ก็เนื่องจาก ตู้และสิ่งของจำนวนมากจะจัดวางไว้ที้ห้องใต้ดินบ้านตึกใหญ่เชิงสะพานนวรัฐ และเมื่อปีที่น้ำท่วมใหญเชียงใหม่ ประมาณปี ๒๕๔๘ - ๒๕๔๙ บ้านที่เชิงสะพานซึ่งไม่เคยมีน้ำท่วมเลยเพราะเป้นที่สูงถูกน้ำถ่วมถึงกว่าครึ่งเมตร ทำให้ ตู้และข้าวของเครื่องใช้ที่สะสมมาแต่รุ่นปู่ย่าตาชวด เสียหายไปเกือบหมด เพราะคาดไม่ถึงว่าน้ำจะเข้าบ้าน โดยน้ำซึมมาจากใต้ดินดันพื้นปูนห้องใต้ดินขึ้นมาเหมือนน้ำพุ เก็บของไม่ทัน และเป็นเวลากลางดึกด้วย จึงเหลือมาจัดแสดงเท่าที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ปัจจุบัน
ยังมีตู้อีกหลายใบ เช่นตู้ของร้านถ่ายรูปทานาคา ตุ้ของคุณชวดถมยา สุจนิล(วสุวัต) และตู้ขายของร้านขายยาอินทนนท์โอสถของคุณตาซุ่นเฮง เลาวพงศ์ ซึ่งจะนำมาเสนอต่อไป ครับ.
ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ๑๐.๓๐ น.ถึง ๑๕.๓๐ น. เชิงสะพานนวรัฐ ฝั่งตะวันออก
วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เบญจพล พิพิธภัณฑ์ Museum BenJapon
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น